วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

44: วาระ 5 ธันวา 54

คณะญาติธรรมจากแม่ฮ่องสอนและกรุงเทพฯ

การไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ในครั้งนี้ ได้มีคณะของพี่มณีจากแม่ฮ่องสอน ซึ่งเคยช่วยเหลือประสานเรื่องที่พักและนำอาหารมาถวายพ่อแม่ครูอาจารย์เมื่อครั้งธรรมสัญจรที่แม่ฮ่องสอนที่ผ่านมา เดินทางมากับญาติธรรมผู้ใจบุญจากกรุงเทพฯรวมกัน 7 คน มาถึงบ้านผมที่โคราชตอนสายของวันที่ 3 ธันวาคม เวลาประมาณสิบโมงกว่าหลังจากคุณสันติได้มาถึงบ้านผมก่อนแล้วประมาณสิบนาที(โดยไม่ได้นัดหมาย) หลังจากได้ขึ้นไปกราบพระบนบ้านผมแล้วได้ออกเดินทางไปภูดานไหประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง และถึงวัดภูดานไหประมาณหกโมงเย็น เมื่อได้กราบพ่อแม่ครูอาจารย์แล้วคณะของพี่มณีได้ขอกลับไปพักที่รีสอร์ทใกล้กับกุฉินารายณ์ และได้กลับมาถวายภัตตาหารและร่วมฟังธรรมในวันที่ 4 ธค. อีกครั้ง

เช้าของวันที่ 4 ธค. พ่อแม่ครูอาจารย์ได้พาคณะของพี่มณีและพวกเราไปกราบพระบรมสารีริกธาตและพระเกศาธาตุของพ่อแม่ครูอาจารย์และพระอรหันต์องค์อื่นๆบนกุฏิของท่าน และได้มอบพระพุทธปฐวีธาตุให้แก่คณะของพี่มณีทุกคนอย่างถ้วนทั่วกัน หลังจากนั้นได้ร่วมกันใส่บาตรและถวายภัตตาหารแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ และในช่วงก่อนกลับพี่มณีและสามีรวมถึงญาติธรรมที่มาด้วยได้ถวายปัจจัยไทยทานและขอร่วมทำบุญในการสร้างศาลาปฏิบัติธรรมและเครื่องปั่นไฟเป็นเงินหลายหมื่นบาท จึงขออนุโมทนากับทุกท่าน

ผลบุญใดๆที่ผมได้กระทำมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน จงน้อมนำและส่งผลไปถึงทุกท่านให้มีแต่ความสุขความเจริญ สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานกันทุกท่านเทอญ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
6 ธันวาคม 2554



ญาติธรรมกำลังดูเกศาธาตุของพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช










IT Man:
ขอโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
ขอพระบรมพุทธานุญาต น้อมนำพระพุทธานุภาพ พระธัมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ
โปรดประทานพรให้แด่คณะของพี่มณีและทุกๆท่าน จงประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมทุกท่านเทอญ

ปล: กำลังส่องหาพระธาตุหรือเปล่าครับ หุหุ
สภาพศาลาปฏิบัติธรรมหลังเดิมที่คิดว่าจะสร้างใหม่ แต่เมื่อพวกเราและผู้เขียนแบบคือคุณเก่ง(คนธรรพ์ที่กำลังเดินในภาพ) ได้ดูสถานที่เดิมและสถานที่ใหม่บริเวณข้างในใกล้สระน้ำ จึงได้ข้อสรุปร่วมกันกับพ่อแม่ครูอาจารย์ว่า น่าจะสร้างหลังใหม่ที่บริเวณใกล้สระน้ำที่มีพระพุทธรูปและรอยพระพุทธบาทที่อยู่ด้านใน เพื่อรองรับญาติธรรมในอนาคต และให้อยู่บริเวณเดียวกันที่จะสร้างเจดีย์ธาตุและพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตามที่มีผู้นิมิตไว้ ส่วนหลังเดิมจะปรับปรุงหลังคาและพื้นใหม่เพื่อเป็นที่รองรับการปฏิบัติธรรมอีกที่หนึ่ง

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
6 ธันวาคม 2554



ภาพถ่ายชุดเก่านำมาให้ดูใหม่ เป็นภาพบริเวณด้านในที่จะก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมใกล้กับพระพุทธรูป ฤาษี และรอยพระพุทธบาทที่พ่อแม่ครูอาจารย์สร้างขึ้นตามนิมิต
  






ถ้ำโพธิสัตว์ภูดานไห

ถ้ำเก่าที่พ่อแม่ครูอาจารย์ให้ขุดเอาดินออก เป็นถ้ำพระโพธิสัตว์ที่รกร้างและถูกดินอุดจนแทบมองไม่เห็น พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านให้ตกแต่งขึ้นมาใหม่ ถ้ำทั้งสามอยู่ห่างกันประมาณห้าเมตร อยู่ด้านทางขึ้นวัดใกล้ที่จอดรถ มีขนาดพอนั่งได้ 1 คน และ 2 คน สามารถกางเต๊นท์ภายในได้หนึ่งหลัง ถ้ำแรกมีแอ่งน้ำตื้นๆอยู่ในสุด ผมชอบถ้ำนี้จึงได้จองไว้แล้ว ปีใหม่นี้คงได้ไปลองนั่งภาวนาตามที่คุณตาประเสริฐให้ไปนั่งดูเอาเอง เหล่านักรบธรรมคงต้องจับสลากในการจองถ้ำกระมัง ผมและคุณพิเชฐชอบมากเป็นพิเศษ ก็เพราะจริตเดิมมันผุดขึ้นมา ฤาษีสามตนแม้อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่อยู่ใกล้กันได้ครับ



ถ้ำแรกมีน้ำขังอยู่ด้านใน



ถ้ำที่สองส่องทะลุเพดานและนั่งได้คนเดียว

 

ถ้ำที่สามหากเป็นฤาษีสามีภรรยาก็สามารถนั่งด้วยกันได้









คุณเก่ง (ฤาษีหรือคนธรรพ์) น้องใหม่ครับ



ตอนนี้ฤาษีสามตนอยู่ถ้ำเดียวกันได้ชั่วคราว



บริเวณด้านหน้าหากทำความสะอาดสามารถนั่งภาวนาและกางเต๊นท์ได้อีกหลายคน



เผิงผาที่อยู่ติดกันสามารถนั่งภาวนาได้หลายคน



เมื่อฤาษีเบื่อนั่งในถ้ำสามารถขึ้นมาอาบแดดได้บนลานหินข้างบนตามจริตเดิมครับ

วันนี้ราวบ่ายสามกว่า พี่มณีได้ติดต่อครูชาติเพื่อแจ้งรายการโอนเงินร่วมทำบุญ ณ ภูดานไห กับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช มาดังนี้

1. ทำบุญ 100,000 บาท เพื่อร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
2. ทำบุญ 20,000 บาท เพื่อซื้อเครื่องปั่นไฟฟ้า
3. ทำบุญ 20,000 บาท เพื่อซื้อแผงโซล่าร์เซล
4. ทำบุญ 150 บาท เพื่อถวายส่วนตัว
รวม 140,150 บาท
รวมกับยอดเงินสร้างศาลาฯเท่ากับ 560,000 กว่าบาท

ผมและคณะ นรธ. ขอพระบรมพุทธานุญาต อัญเชิญพระพุทธานุภาพ พระธัมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ โปรดอำนวยพรชัยคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร สมบัติ และพระธรรมขั้นละเอียดจงบังเกิดมีกับคณะญาติธรรมของพี่มณีและครอบครัวตลอดจนถึงความพ้นทุกข์เทอญฯ

โมทนาสาธุครับ
สมาชิกธรรม 10-12-2011, 03:31 PM
ช่วงเช้า-บ่ายวันที่4 ธ.ค.2554
-คณะของพี่มณีถวายสิ่งของ
-รับของที่ระลึก"ปฐวีธาตุ"
-ถวายจังหัน
-ดูสถานที่ก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
 
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: คณะพี่มณี-1.jpg
Views: 10
Size: 93.0 KB
ID: 1798447 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: คณะพี่มณี-2.jpg
Views: 10
Size: 100.4 KB
ID: 1798448 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2324.jpg
Views: 10
Size: 166.7 KB
ID: 1798449
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: คณะพี่มณี-3.jpg
Views: 11
Size: 97.5 KB
ID: 1798450 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: คณะพี่มณี-4.jpg
Views: 10
Size: 96.8 KB
ID: 1798451 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2338.jpg
Views: 11
Size: 111.3 KB
ID: 1798452
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: บนกุฎิ-1.jpg
Views: 13
Size: 81.6 KB
ID: 1798453 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หมู่-1.jpg
Views: 12
Size: 166.6 KB
ID: 1798454 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ตักบาตร-1.jpg
Views: 12
Size: 144.0 KB
ID: 1798455
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถวายจังหัน-1.jpg
Views: 12
Size: 104.8 KB
ID: 1798456 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หมู่-3.jpg
Views: 11
Size: 155.9 KB
ID: 1798469 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หมู่-4.jpg
Views: 11
Size: 163.9 KB
ID: 1798470
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หมู่-5.jpg
Views: 11
Size: 111.3 KB
ID: 1798471 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หมู่-6.jpg
Views: 14
Size: 169.4 KB
ID: 1798472 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หมู่-2.jpg
Views: 12
Size: 158.2 KB
ID: 1798508
ช่วงบ่ายพัฒนาทำความสะอาดพื้นที่บริเวณ
-ทำความสะอาดองค์พระประธาน ( หอฉัน )
-เก็บกวาดบริเวณสถานที่
-ทำความสะอาดกุฏิของพ่อแม่ครูอาจารย์และบริเวณโดยรอบ

 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2380.jpg
Views: 13
Size: 214.6 KB
ID: 1798633 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2389.jpg
Views: 11
Size: 147.9 KB
ID: 1798638 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2385.jpg
Views: 13
Size: 111.9 KB
ID: 1798635 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2387.jpg
Views: 10
Size: 118.9 KB
ID: 1798636 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ปรึกษา.jpg
Views: 16
Size: 128.5 KB
ID: 1798632  คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: 2388.jpg
Views: 10
Size: 91.8 KB
ID: 1798637
ชมภาพเพิ่มเติมจากวาระ5ธ.ค.2554 "ช่วงการปรึกษาหารือการก่อสร้างศาลาปฎิบัติธรรม"(ช่วงนี้ชมภาพไปพลางก่อนนะครับ)
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: พัฒนา-2.jpg
Views: 16
Size: 126.1 KB
ID: 1800915 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: พัฒนา-3.jpg
Views: 18
Size: 150.5 KB
ID: 1800916 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: พัฒนา-4.jpg
Views: 16
Size: 143.2 KB
ID: 1800917
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-1.jpg
Views: 16
Size: 136.3 KB
ID: 1800918 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-3.jpg
Views: 14
Size: 181.9 KB
ID: 1800919 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-4.jpg
Views: 16
Size: 174.2 KB
ID: 1800920
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-5.jpg
Views: 15
Size: 163.9 KB
ID: 1800921 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-6.jpg
Views: 15
Size: 136.7 KB
ID: 1800922 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-7.jpg
Views: 16
Size: 109.2 KB
ID: 1800923
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: เสือภูเขา.jpg
Views: 19
Size: 184.4 KB
ID: 1800924 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ถ้ำ-8.jpg
Views: 18
Size: 175.7 KB
ID: 1800932 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ตักบาตร-1.jpg
Views: 18
Size: 144.0 KB
ID: 1800933
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: IMG_2441.JPG
Views: 17
Size: 2.86 MB
ID: 1800934
ส่งท้ายภูดานไห " วาระ 5 ธ.ค.2554 " ด้วยภาพบรรยากาศการกราบลาพ่อแม่ครูอาจารย์ พ. สุรเตโช เป็นบรรยากาศที่ไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว ทราบมาว่ารถท่านสันติงอแงไม่ยอมกลับ.......หีหี ส่วนผมลงเขามาก่อน ประมาณบ่าย 3 โมงกว่า ๆ ครับ
 
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: รวม1.jpg
Views: 38
Size: 153.0 KB
ID: 1801444 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: รวม 2.jpg
Views: 26
Size: 148.1 KB
ID: 1801445 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ส่งกลับ-2.jpg
Views: 22
Size: 138.6 KB
ID: 1801446
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ส่งกลับ-3.jpg
Views: 24
Size: 151.9 KB
ID: 1801447 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ส่งกลับ-4.jpg
Views: 21
Size: 161.6 KB
ID: 1801448 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ส่งกลับ-5.jpg
Views: 21
Size: 193.6 KB
ID: 1801449
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ส่งกลับ-6.jpg
Views: 19
Size: 198.5 KB
ID: 1801450 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: ส่งกลับ-7.jpg
Views: 19
Size: 140.4 KB
ID: 1801451
สวัสดีครับ พี่น้องนรธ.ทุกท่าน กลับมาจากภูดานไห ไม่มีอะไรมาฝากนอกจากธรรมะที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเมตตาสั่งสอครับ เมื่อสมัยที่ไปกราบท่านใหม่ๆท่านก็สอนธรรมหลายข้อ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ท่านก็เมตตาสอนซ้ำแล้วซ้ำอีก จนพอที่จะนำไปปฏิบัติได้บ้าง อย่างเช่นเรื่องอารมฌ์ต่างๆที่เรามักจะเจอในชีวิตประจำวัน เช่นอารมฌ์โกรธ หงุดหงิด กังวล ฯลฯ เมื่อมีอารมฌ์อย่างนี้เกิดขึ้นในใจ ท่านก็จะให้พิจารณาว่าอารมฌ์เหล่านี้มันไม่เที่ยง มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป อย่าเอาจิตของเราเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ถ้าเราเอาจิตของเราเข้าไปผูกติดกับอารมฌ์เหล่านี้ มันจะทำให้ใจของเราเป็นทุกข์ เป็นกังวล ให้ละวางเสีย แล้วใจของเราจะได้สบาย

ในชีวิตทางโลกของคนอย่างพวกเรา ต้องเจอกับอารมฌ์อย่างที่ว่านี้อยู่แล้ว อย่างตัวผมเองวันหนึ่งก็มีเรื่องที่ทำให้ หงุดหงิด ก็คิดถึงคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านเคยสอน ให้พิจารณาอารมฌ์(หงุดหงิด)เหล่านั้น แล้วก็ละวางเสีย แต่มันก็ไม่ยอมหายหงุดหงิดเสียที สุดท้ายก็ใช้วิธีกำหนดลมหายใจ เข้า-ออก บริกรรม พุท-โธ พอทำไปได้สักพักจิตของเราก็อยู่กับปัจจุบัน รู้แต่ลมหายใจ เข้า-ออก ความหงุดหงิดนั้นก็หายไป หายไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ก็รู้สึกดีใจ คิดว่าเราละวางอารมฌ์หงุดหงิดได้แล้ว

เมื่อมีโอกาสได้ไปกราบท่าน ก็ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์และการพิจารณาอารมฌ์อย่างนี้ให้ท่านฟัง พอท่านฟังจบท่านก็บอกว่า การละวางอารมฌ์หงุดหงิด โดยวิธีกำหนดลมหายใจ นั้นไม่ถูก นั่นเป็นการเคลื่อนจิต คือความหงุดหงิดไม่ได้หายไปไหน ยังคงอยู่แต่เราเอาการภาวนากำหนด ลมหายใจเข้า-ออก ไปทับเอาไว้ มันยังไม่ได้ถูกแก้ไขให้ถูกจุด ไม่ใช่การละวางที่ถูกต้อง คือแทนที่เราจะพิจารณาถึงความร้อนในอารมฌ์ ที่ทำเกิดโทษ เกิดผลเสียต่างๆในจิตใจ ที่ไปยึดมั่นถือมั่นนั้น กลับหนีไปภาวนาแทน คือเราต้องพิจารณาจนเรารู้สึก เห็นโทษของอารมฌ์หงุดหงิดนั้นจริงๆ หรือรู้สึกถึงความร้อนในจิตใจที่เป็นทุกข์นั้นจริงๆ จึงจะเป็นการละวางที่ถูกต้อง

เพราะอารมฌ์ต่างๆนั้น มันไม่ใช่ของเรา มันไม่มีตัวตนไม่สามารถบังคับ หรือสั่งมันได้ มันเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แต่ถ้าเรารู้จักวิธีที่จะรับมือ รู้เท่าทัน มันจะเกิดขึ้นอีกเป็นพันๆครั้ง เราก็สามารถที่จะละวางได้จริงๆ แล้วจะทำให้จิตใจของเรา เบา สบาย ที่สำคัญถ้าเราฝึกบ่อยๆก็จะทำให้กิเลสของเรา ค่อยๆน้อยลง ระหว่างคำว่า ให้เราละวางไว้ ถึง ละวางได้จริงๆ รอยต่อของช่วงนั้น เราต้องพิจารณาถึงโทษของความหงุดหงิด ที่ทำให้เกิดความร้อนรุ่ม ความกังวล ฯลฯทีจะเกิดกับตัวเรา ที่จะทำให้เราเกิดความทุกข์ เราต้องพิจารณาจนรู้สึกได้จริงๆ เห็นโทษจริง แล้วเราจะละวางได้จริง มันจะเป็นการฝึกทำให้จิตของเราเป็นกุศล หมั่นฝึกจิตของเราให้เป็นกุศลบ่อยๆ แล้วผลของมันจะทำให้เราถึงที่สุดแห่งทุกข์

ถ้าเราทำได้ดังนี้เท่ากับเราได้ใช้ปัญญาในการพิจารณาถอดถอนกิเลส ออกจากใจของเรา พ่อแม่ครูอาจารย์บอกว่า เรากำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งการใช้ปัญญาที่ถูกต้อง จะช้าหรือเร็วต้องถึงจุดหมายแน่นอน

ธรรมะของจริง ต้องใช้ได้จริง และเห็นผลจริง