วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

19: องค์พระอุปถาก...การปรับธาตุขันธ์

ดร.นนต์...พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เนื้อปูนแกร่งหนึกนุ่ม แตกลายด้านหน้า พิมพ์ทรงและเนื้อมวลสารคล้ายกันกับพระของคุณสมเกียรติ กาญจนชาติ (ดูเหมือนท่านจะเคยนำพระสมเด็จแบบนี้ไปถวายเจ้าคุณเที่ยงแห่งวัดระฆัง เพื่อสร้างอาคารหลังหนึ่งในวัดระฆัง) ลองดูตามลิงก์นี้ครับ พระสมเด็จวัดระฆัง ช่วยภัยพิบัติในอดีตรักษาโรคอหิวา สมัยรัชกาลที่๕ | Facebook


พระองค์นี้เสด็จมาเมื่อวาน ผมหาพระแบบนี้มานานแล้ว พึ่งเจอก็เลยอัญเชิญกลับบ้าน ผมขอพระบารมีเบื้องบนเพื่อตรวจสอบพลานุภาพ ปรากฏว่ามีพลังและความปีติมาก ผมลองใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ทั้งสองข้างจับที่องค์พระปรากฏว่า มีพลังจนทำให้นิ้วทั้งหมดเต้นเป็นจังหวะทีละนิ้ว (หกนิ้ว) อย่างน่าอัศจรรย์เป็นครั้งแรกที่เป็นอย่างนี้

ปล. ตอนแรกผมอธิษฐานจิตว่าจะนำไปมอบให้ใครบางคน แต่พยายามโพสลงหลายครั้งไม่สำเร็จ มานึกย้อนอีกที ท่านคงจะให้ผมเก็บไว้ทำหนังสือกระมัง... บุรุษผู้อุปถากพ่อแม่ครูอาจารย์คงต้องรอองค์ใหม่กระมังครับ

  
  

ครูชาติ...กราบเรียนท่าน ดร.แทนบุรุษผู้อุปถากพ่อแม่ครูอาจารย์ กระผมเห็นพระองค์นี้แล้วมีความปิติอย่างแรง และรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าไปทั้งร่างกายเลยทีเดียว กระผมขออนุญาตท่าน ดร. อัญเชิญพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์นี้มาเพื่อชมพระบารมีร่วมกัน...จักเป็นพระคุณยิ่ง...


ดร.นนต์...จริงพระองค์นี้ผมตั้งใจอธิษฐานเพื่อครูชาติ และก็รู้ตั้งแต่เมื่อวานด้วยความปีติ และเกิดปรากฏการณ์ที่แปลกคือ พระเต้นให้ดูทั้งหกนิ้วเป็นครั้งแรก(จับหกนิ้ว) และเมื่อถึงมือครูชาติแล้ว ท่านจะรับรู้บางอย่างได้เอง ให้คอยสังเกตว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นนะครับ พระท่าน "ทรงเลือกคน" แล้วนะครับ

ผมได้ถวายพระนามท่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วคือ "องค์พระอุปถาก"

เพื่อเป็นการตอบแทนท่าน ที่คอยดูแลพ่อแม่ครูอาจารย์แทนพวกเรา พระสมเด็จหนึ่งองค์อาจไม่สามารถตอบแทนเนื้อนาบุญของท่านได้ แต่เชื่อว่า พระสมเด็จองค์นี้จะช่วยปรับภูมิภายในให้ท่านเข้าสู่กระแสธรรมได้มากขึ้น อย่างน้อยก็กำลังใจที่จะเกิดขึ้นครับ

ขออนุโมทนา



ครูชาติ....ขอบพระคุณท่าน ดร. มากที่กรุณาเมตตากระผม คงเป็นอย่างที่ท่าน ดร.ว่า "พระท่านทรงเลือกคน" เพราะผมก็ดูพระที่ท่าน ดร. โพสต์มาก็เยอะ แต่พอมาถึงองค์นี้รู้ปิติ อบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งร่างกายและปวดหัวตุบๆ นิดหนึ่ง จนอยากจะชมบารมีองค์จริงท่านขึ้นมาทันที จึงได้พิมพ์ข้อความขอชม ...
ส่วนเรื่องอุปถากพ่อแม่ครูอาจารย์ผมว่ามันเป็นหน้าที่ เพราะถ้าดูแล้วในกลุ่มนักรบธรรมหากเทียบกันแล้วมีผมที่ยังมีภูมิจิตภูมิธรรมยังห่างไกลเหล่านักรบธรรมทั้งหลาย (อยู่ปลายแถว) ต้องอยู่ใกล้พ่อแม่ครูอาจารย์ ให้ท่านเฆี่ยนตีกิเลสให้เบางบางลง หากอยู่ห่างพ่อแม่ครูอาจารย์อย่างพวกท่านมีหวังผมคงไม่ได้รู้จักนักรบธรรมทั้งหลายเป็นแน่ ดูสิขนาดโดนท่านดู ด่า เฆี่ยนตีกิเลสให้ทุกวัน จิตมันยังไม่ยอมฟังเลยในบางครั้ง มันพยายามต่อต้านการกระทำความดี (ท่านบอกว่าจิตเรา มันมี 2 ด้าน คือ ดำ และขาว) ตอนนี้จิตดำกับจิตขาวกำลังต่อสู้กันในตัวผม ท่านบอกว่าเป็นธรรมดาของคนเริ่มปฏิบัติธรรม หากทำจิตขาวให้เป็นปกติแล้วจิตดำจะอ่อนตัวลงไปเอง นี่คือเหตุผลที่ต้องอยู่ใกล้พ่อแม่ครูอาจารย์ผมถือว่าเป็นหน้าที่ ที่ศิษย์ต้องกระทำต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ คนมีกิเลสหนาอย่างผมต้องอยู่ใกล้ท่าน ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนน้ำใจของนักรบธรรมทุกท่านที่มีต่อผม และผมถือว่าพ่อแม่ครูอาจารย์สำคัญที่สุด ...หากลองเทียบกับนักรบธรรมท่านอื่นแล้ว บางท่านได้มาฟังธรรมเพียง 1 หรือ 2 ครั้งเท่านั้นการปฏิบัติธรรมมีความก้าวหน้าเหมือนติดจรวดเลย น่าอิจฉา...ผมจะพยายามตามไปให้ทัน และคงต้องอาศัยพระบารมีของ "องค์พระอุปถาก" ช่วยแล้วละมั่งการปฏบัติธรรมจึงพัฒนากว่าที่เป็นอยู่ อยากให้ถึงวันที่ 12 ส.ค. 54 เร็วๆ จังเลย...หุหุ..



ครูชาติ....ขอคำชี้แนะท่าน ดร.นนต์ หน่อยครับตั้งแต่ผมได้รับมอบ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ของท่าน ดร.นนต์ มารู้สึกปวดหัวตึบๆ อยู่ไม่หายเลย สงสัยท่านแรงจริง แต่ความดีที่เรามีอยู่ไม่เพียงพอ เวลาเราอารธนาท่านมาแขวน จึงปวดหัวตึบ มึนไปเลย ขอคำชี้แนะท่าน ดร.นนต์หน่อยนะครับ ว่าผมจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรครับ....
การปรับธาตุขันธ์
ดร.นนต์...ขอเรียนให้ท่านชาติทราบอีกครั้งว่า พระสมเด็จองค์นี้ท่านมีอะไรที่พิเศษตั้งแต่ผมได้อธิษฐานจิตขอให้พบองค์ของครูชาติแล้วนะครับ จับครั้งแรกจิตก็บอกว่าจะมอบให้ท่าน เมื่อนำกลับมาที่บ้านลองนั่งอธิษฐานจิตบอกพระเบื้องบน พลังต่างๆก็วิ่งเข้ามา ความปีติเมื่อเอ่ยจะมอบให้ท่านก็หลั่งไหลมา ซึ่งผมก็ทราบจากท่านเช่นเดียวกันว่า ท่านรู้สึกสัมผัสพลังบางอย่างได้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับผมอธิษฐานจิตพอดี พระองค์นี้เมื่อผมถ่ายภาพ ยิ่งปรากฏความงามและรัศมีเปล่งขาวงามมาก ผมหาพิมพ์และเนื้อแบบนี้มานานแล้ว ก็พึ่งเจอองค์นี้เป็นองค์แรก ผมพยายามโพสลงภาพหลายครั้งในช่วงเย็นวันนั้น เพื่อจะเซอร์ไพรส์ท่าน แต่โพสไม่ได้สักที พอมาดูอีกทีจิตหนึ่งกลับอาดูรขึ้นมาอยากจะเก็บไว้ลงหนังสือเสียอย่างนั้น แต่เป็นแค่อาการชั่ววูบ จิตก็กลับมาบอกว่า เราได้ตั้งจิตมอบให้ท่านแล้ว จึงได้กลับมาลงภาพใหม่เพื่อมอบให้ท่านเป็นทางการในเว็บบอร์ดในช่วงเย็น ซึ่งท่านยังได้แสดงปาฏิหารย์ส่งพลังไปถึงท่านจนเกิดปีติอย่างบอกไม่ถูกในช่วงเวลาเดียวกันกับผมโพสข้อความมอบให้ท่าน ซึ่งผมก็รู้อาการนั้นตลอดเวลา และเมื่อวันที่ผมมอบให้ท่าน เมื่อผมอาราธนามอบให้ท่าน ความปีติและพลังบางอย่างได้ส่งไปถึงท่าน ทุกเหตุการณ์มันเป็นปัตจัตตัง อย่างที่ท่านทราบ

พระที่มีพลังมากนั้น หากท่านใดไม่มีพื้นฐานขององค์ฌานที่เข้มแข็งมาตั้งแต่อดีตชาติ อาจรับพลังที่หนักหน่วงไม่ได้ จะเกิดอาการต่างๆดังนี้ 1) ปวดศรีษะเต้นตุ๊บๆ 2) เกิดอาการหาวนอนถี่หลายครั้ง 3) รู้สึกจะอาเจียน 4) รู้สึกหมดแรงเอาดื้อๆ 5) เกิดอาการมือไม้สั่น 6) หัวใจเต้นแรงและถี่ 7) ขนลุกขนชันเย็นซาบซ่านหรือร้อนผ่าวไปทั้งตัว เป็นต้น

วิธีแก้ไข ก็คือ ให้นำพระไปแขวนคอ หรือวางในมือ แล้วนั่งสมาธิอธิษฐานจิตดังนี้
ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์เจ้า และครูอาจารย์สืบต่อมาทุกๆพระองค์ ได้โปรดสงเคราะห์ให้ข้าพเจ้าได้ปรับธาตุเพื่อรับกระแสพลังพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ ที่สถิตย์อยู่ในพระสมเด็จองค์นี้ เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งให้ข้าพเจ้าได้ถึงซึ่งความสุขทั้งทางโลกและทางธรรมต่อไป

หลังจากนั้นให้ใช้มโนมยิทธิเปรับร่างกายของเราให้มีความใส โปร่ง และให้นึกเห็นภาพองค์พระมีรัศมีสีขาวนวลและใสกำลังไหลเข้าสู่กายและใจของเราทั้งหมด เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เบาๆ สงบ และเย็นสบาย ต้องการให้พลังเคลื่อนไปตรงไหน จิตก็อัญเชิญให้ไหลไปตรงนั้น จนมองเห็นกายเราสว่างขาวนวล ทำอย่างนี้ไม่นาน อาการทั้งหมดจะหายไป ทุกอย่างอยู่ที่จิตทั้งหมดครับ ฝึกเรียกของเก่ามาใช้โดยอาศัยจิตทั้งนั้นครับ ลองดูแล้วจะรู้เอง...ขออนุโมทนาครับ....

พระท่านแรง และทรงเลือกคน และเพื่อปรับพยศบางอย่างในตัวท่าน ท่านย่อมรู้ดีครับว่า ผมหมายถึงอะไร พระสมเด็จองค์นี้จะช่วยปรับภูมิภายใน ภูมิจิตและ ภูมิธรรมให้ท่าน.... จำคำผมไว้นะครับ



ครูชาติ....ครับขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ เพราะขนาดผมคุยโทรศัพท์กับท่านสมบัติ ท่านสมบัติยังรู้สึกได้ว่าปวดหัวเช่นกัน แสดงว่าท่านแรงจริงขนาดอยู่ไกลถึงแม่สอด ยังส่งไปถึง ขอบคุณครับผมจะเริ่มปฏิบัติตามคืนนี้เลยครับท่าน...ได้ผมอย่างไรผมจะแจ้งอีกที่ครับ ...ขนาดผมนั่งพิมพ์อยู่ในใจยังสั่นๆ เลยครับท่าน...ท่านคงจะปรับพยศบางอย่างในตัวผมเป็นแน่ครับ...ขอตัวไปนั่งก่อนนะครับ...พรุ่งนี้จะมารายงานตัวใหม่


IT Man...เมื่อวานตอนบ่ายๆ ผมนั่งทำงานในห้องทำงานติดแอร์เย็นสบายๆ อารมณ์อาการปกติ แต่พอครูชาติโทรมาได้สักพัก พร้อมกับบอกอาการดังข้างต้นมาแล้วถามวิธีแก้ไขจากผม เออ ผมก็กลับมีอาการเช่นเดียวกันขึ้นมาแฮะ

พอตอนค่ำๆก็ได้โทรคุยกับท่านนนต์ แต่ท่านนนต์กลับได้กระแสความเย็นๆจากทางผม จนต้องเอ่ยปากถามไถ่ว่าอัญเชิญพระอะไร ได้รับกระแสเย็นๆคุ้นจังเลย ผมก็ได้บอกไปว่าอัญเชิญองค์ดำกับปฐวีธาตุของพ่อแม่ครูอาจารย์ ถึงกับบางอ้อเลยทีนี้


พร้อมกันนี้ก็ได้รับข้อมูลเรื่องที่ผมส่องๆองค์ดำเห็นเม็ดโลหะธาตุเหมือนปรอท หรือ platinum นั่นคืออะไร
ท่าน ดร.นนต์ก็เลยบอกว่าน่าจะเป็นเหล็กไหลเงินยวง โอว...มิน่าหล่ะพลังดูดแรงมาก (แต่คิดว่าน่าจะมีกลุ่มปรอทด้วย)

สำหรับอาการเช่นครูชาติ ผมเคยเกิดกับพระในกลุ่มระดับ TOP ที่มีพลังเกิน 27 เท่าของสมเด็จวัดระฆัง บางครั้งจะเกิดอาการปวดไปทั้งอาณาบริเวณที่ห้อยพระเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 คืบทะลุออกไปด้านหลัง กระจายขึ้นไปบนหัว ตื้อๆมึนๆ เหมือนศรีษะจะระเบิด บางครั้งอารมณ์ร้อน ไม่กลัวอะไรในโลกนี้เลยก็เป็น

แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อถอดองค์พระ ถอดเข้าถอดออกเป็นพักๆ ตอนกลางคืนก็อัญเชิญภาวนาร่วม สุดท้ายก็สวมนอนให้หลับไปด้วยกันเลย อาการดังกล่าว เกิดขึ้นราวๆ 3 วันแรกที่อัญเชิญต่อเนื่องกัน จากนั้นพอเข้าที่เข้าทางก็จะเป็นอาการปกติครับ

ทว่า...หากนานๆอัญเชิญที บางครั้งหัวระเบิดได้อีกเช่นกัน เพราะเราไม่ได้อัญเชิญประจำ พระท่านก็มีพลานุภาพมากๆ และผมก็มีพระเข้ามาให้ทดลองอัญเชิญเป็นประจำๆ ในเมื่อท่านเสด็จมาโปรดเราถึงที่แล้ว ก็ต้องอัญเชิญบูชาพระคุณ เพื่อทดสอบพลังอิทธิคุณกันหน่อย
มาตรฐานพระพิมพ์ที่ผมอัญเชิญเป็นประจำ พลังท่านจะประมาณ 12 หรือ 27 หรือ 62.5 เท่าของพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆังครับ
พลังที่ว่ามากกว่านี้ในภพนี้ยังไม่เคยเจอ และไม่คิดว่าจะมี

ภพก่อนนั้นสร้างแล้วบรรจุกรุไว้ ภพนี้อัญเชิญออกมาสืบพระศาสนา ทดลองพลังอิทธิคุณ เกือบร้อยห้าสิบปีมาแล้ว พลังอิทธิคุณยังเท่าเดิม ไม่สงสัยเลย
หากบุญบารมีเก่าเราไม่ได้สร้างไว้ ก็ยากยิ่งนักจักได้พบเจอและได้อัญเชิญพระพิมพ์ที่มีพลังแรงมหาศาลเช่นนี้ได้