วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

21: แสวงบุญภูดานไห2.2...บอกกล่าวความใน

บอกกล่าวความใน

ดร.นนต์: 15-08-2011, 11:04 AM   #3819
"ภูผาผึ้ง" ดินแดน "อริยเจ้า" ที่เหล่านักรบธรรม ล้วนเคยบำเพ็ญกับพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ ดินแดนแห่งนี้มาตั้งแต่อดีตชาติ อนึ่ง...มีปริศนาหนึ่งผมจะขอตีความตามจิตของตัวเองคือ ปัญจวคีย์แบบพุทธประเพณีที่จะเกิดขึ้นในพุทธันดรขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกในกัปป์หน้า ต่อจากพระศรีอาริยเมตไตรย ก็เคยบำเพ็ญอยู่ร่วมกับพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ ดินแดนแห่งนี้ (พระติดตามห้ารูป เณรหนึ่งรูป)

กาลหนึ่ง วันที่ 13 สิงหาคม 2554 ขึ้น 14 ค่ำ เดือนเก้า เวลาประมาณบ่ายโมง เมื่อพ่อแม่ครูอาจารย์มีพระเมตตาสอนธรรมและปฏิบัติธรรมขั้นสูงบนลานหินยอดภูผาผึ้ง ขณะกำลังเข้ากรรมฐาน องค์สุริยเทพได้แผ่รังสีพลานุภาพอย่างแรงกล้ามากที่สุดที่เคยพบมาในชีวิตในชั่วระยะไม่กี่นาที (ปรกติท้องฟ้าครึ้ม) ทุกคนได้รับพลังประหลาดนั้น และรู้สึกเช่นกันถึงพลานุภาพ แม้จะถูกรังสีแผดกล้าเหมือนไฟกำลังไหม้ผิวหนังอย่างรุนแรง แต่ความเย็นกลับแผ่ซ่านไปทั้งอินทรีย์ จิตกลับรวมอย่างรวดเร็ว และผิวกายไม่ดำไหม้แต่กลับขาวผ่องอย่างน่าอัศจรรย์ พ่อแม่ครูอาจารย์บอกว่า พระพุทธองค์มีพระเมตตาเสด็จมาอนุโมทนาและรับทราบในการแสวงบุญกันในครั้งนี้

ตกกลางคืน เวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีห้า ฝนได้ตกกระหน่ำเฉพาะบริเวณวัดภูดานไห โดยเฉพาะศาลาลานธรรม ที่เหล่านักรบธรรมกำลังนอนอยู่ในเต๊นท์และมุ้งกลด แต่บริเวณรอบนอกวัดออกไปกลับมีแสงดาวเต็มท้องฟ้า พวกเราสี่คนมี ผม คุณสมบัติ ครูชาติ คุณประจักร์(สาวกธรรม1) ได้ถูกทดสอบหลังจากเผชิญกับการนั่งสมาธิใต้แสงอาทิตย์อันแผดจ้าอีกครั้ง เพราะศาลาลานธรรมที่เราอยู่นั้น หลังคารั่วและน้ำหลากไหลเข้ามาจนเจิ่งนองไปทั้งพื้น ท่านสมบัติและท่านสาวกธรรมโชคดีที่ได้เต๊นท์กันน้ำได้ จึงยังคงนอนต่อไปได้ท่ามกลางกระแสน้ำไหล ส่วนผมมีมุ้งกลดและท่านครูชาติมีมุ้งครอบจึงไม่สามารถกันน้ำได้ ครูชาติจึงต้องนั่งสมาธิท่ามกลางกระแสน้ำไหลผ่านกายด้วยความแน่วแน่ ผมเองต้องลุกขึ้นมานั่งสมาธิในขณะที่ผ้าห่มเปียกน้ำ และพอมีพื้นที่ที่ไม่เปียกน้ำพอนั่งได้ แต่ต้องแย่งชิงกันกับตะขาบตัวไหญ่ตัวหนึ่ง เรามีกำลังมากกว่าจึงเชิญเขาออกไปนอกศาลาจะได้ไม่เบียดเบียนกัน การนอนและการนั่งสมาธิท่ามกลางกระแสน้ำและเสียงพายุฝน จึงเป็นอีกบททดสอบหนึ่งที่เราได้รับในการไปกราบและปฏิบัติธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์ในครั้งนี้ ทุกอย่างถูกสอนด้วยสภาวะจริงของธรรมชาติและสภาวะจริงทางธรรม ที่พ่อแม่ครูอาจารย์มีพระเมตตาแก่ลูกศิษย์ทั้งหลาย

ในความปีติและความระลึกรู้เรื่องของการบำเพ็ญบารมี ผู้ปฏิบัติย่อมรู้ด้วยตนเองเป็นปัตจัตตัง สัจจะ สัทธรรม คือความจริง ความจริงย่อมเป็นความจริง แม้สิ่งนั้นจะอยู่เหนือโลก บางอย่างจึงมิสามารถจะอธิบายให้ผู้อื่นรับรู้ได้ นอกจากผู้ที่อยู่สูงกว่าตัวเราเท่านั้น ที่ท่านสามารถรู้ได้

ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมรู้ว่า "ธรรม" คือสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติคือเป็นสิ่ง "เหนือโลก"หมายความว่า เมื่อเราเรียนรู้และเข้าใจสภาวะความจริงของโลกคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นักปฏิบัติย่อมละวางในสิ่งทั้งหลาย ไม่ยึดมั่นถือมั่นเอามาเป็นอารมณ์ เมื่อละวางได้ สภาวะเหนือโลกก็จะบังเกิดขึ้น การเข้าใจสภาวะความร้อนของแสงแดดที่แผดจ้า และการเข้าใจกระแสน้ำและเสียงพายุฝนกระหน่ำ จึงเป็นเพียงบททดสอบพื้นๆสำหรับเหล่านักรบธรรมเท่านั้น... จงสู้ต่อไป... ความเป็นคนเอาจริง ทำจริง จะนำทางทุกท่าน ดั่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้ปฏิบัติให้เห็นเป็นตัวอย่างนั้น นับเป็นบุญยิ่งแล้วสำหรับพวกเรา...
ขอให้ศิษย์พระตถาคตจงเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

 

somlatri 15-08-2011, 11:21 AM  #3820
โมทนาสาธุกับท่านอ.นนต์ครับ

พระอาจารย์ท่านบรรยายได้หมดจด ณ วันเวลาที่เหล่านักรบธรรมได้เรียนรู้และได้เข้าใจในความจริงของ "ผู้รู้" และ "ผู้ถูกรู้" บนจุดสูงสุดของภูผาผึ้ง จะมีสักกี่คนที่พบว่าการนั่งกรรมฐานกลางรัศมีสุริยะเทพนั้นได้ธรรมมากมายกว่านั่งในห้องแอร์ หรือนั่งโดยมีพัดลมเป่า หรือนั่งในยามค่ำคืนอันสงบเย็นเหมือนทั่วๆ ไปที่ทุกคนเคยทำกัน ไม่เสียชาติเกิดแล้วหนอเรา
ดร.นนต์ : 15-08-2011, 12:07 PM #3824
พระวรกายหรือธาตุขันธ์สมมุติของผู้อยู่เหนือโลก แม้จะละสังขารผ่านมาแล้วนับร้อยกว่าปีก็ยังคล้ายเดิม จริยวัตรและพระบารมีขององค์พุทธะย่อมแผ่ขจรไกลไปทั่วแดนโลกธาตุ ผู้อยู่ใกล้ชิดและได้รับพระเมตตาจากองค์ท่าน ย่อมมีความปีติอิ่มเอิบอย่างหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมกราบแทบเบื้องพระบาทของพระองค์ท่าน แม้ข้าพระพุทธเจ้าจะสามารถล่วงเข้าพระนิพพานได้ในชาตินี้ ข้าพระพุทธเจ้าก็ยังอธิษฐานจิตเพื่อมาช่วยพระองค์ท่านจนกว่าจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่...ในพุทธกัปป์ต่อไป และจะยังกิจเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนาจนกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติ...

คำอธิษฐานจิตนี้ ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อเบื้องพระพักตร์ของพ่อแม่ครูอาจารย์ องค์พระเบื้องบน เหล่าเทวดา และเหล่านักรบธรรมที่ได้รับรู้ในความปีตินี้ด้วยกันในเช้าวันพระ 15 ค่ำ เดือนเก้า พุทธศักราช 2554 จึงขออนุโมทนาในอนุโมทนาทานของเพื่อนธรรมทุกท่าน และขอบุญกุศลจงย้อนกลับไปสู่เพื่อนธรรมจนกว่าจะเข้าพระนิพพานกันทุกท่านนะครับ



ครูชาติ: 15-08-2011, 12:15 PM #3826
ทุกสิ่งที่เราพบเห็นคือของจริง ธรรมก็ของจริง พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านพาพวกเราสร้างบารมีร่วมกันเพื่อพุทธภูมิ แล้วลองถามใจตัวเราหรือยังว่า "ตัวเราจริงหรือเปล่า" คนจริงจะพบของจริง คนไม่จริงก็จะไม่พบของจริง... ผมสัญญาว่าจะร่วมกับเหล่านักรบธรรมทุกท่านสร้างบารมีด้วยกันเพื่อมรรคผลนิพพานเป็นที่สุด.... และขออนุโมทนา ท่าน ดร.นนต์ ด้วยนะครับที่มาเจอพ่อแม่ครูอาจารย์ในอดีต....แล้วก็ได้ร่วมสร้างบารมีอีกครั้ง...และทุกคนที่มาเป็นนักรบธรรมคือ สาวกของท่านในอดีต และยังจะตามมาอีกมากมาย รอดูต่อไป...โดยไม่ต้องสงสัย...ต่อไปขอให้ตั้งหน้าตั้งตาสร้างบารมีร่วมกันเพื่อมรรคผลพระนิพพาน...ขอให้ถึงจุดหมายปลายทางทุกๆ ท่านเทอญ

ภูผาผึ้ง ดินแดนพุทธภูมิ และดินแดนอริยเจ้า ซึ่งเป็นที่พ่อแม่ครูอาจารย์เคยบำเพ็ญก่อนมาอยู่ภูดานไห ใครเป็นใครก็ดูเอาเองนะครับ

 

ครูชาติ:
ขออนุโมทนาสาธุด้วยทุกประการ ...ดีใจกับท่าน ดร.ด้วย เพราะวันนั้นทุกล้วนปิติกับท่าน คุณแม่ชม ก็ปิติจนน้ำตาไหล ส่วนผมก็ปิติเช่น จนน้ำตาไหลข้างในเช่นกัน...ขอให้คำอธิษฐานสมหวัง และเป็นจริงนะครับ...ขออนุโมทนาด้วย

IT Man:
ผมได้นมัสการถามพ่อแม่ครูอาจารย์ ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ (การแผ่รังสีแห่งพระฉัพรรณรังสีกับแสงแห่งองค์สุริยะเทพ) จักเกิดขึ้นอีกหรือไม่ขอรับ ท่านก็ได้ตอบว่า สามารถเกิดขึ้นอีกได้อยู่ ก็พอเป็นกำลังใจให้เพื่อนธรรมที่ยังไม่มีโอกาสดีๆเช่นนี้นะครับ

IT Man:
โมทนาสาธุทุกประการนะครับ
ท่าน manopk หากประสงค์จะรับพระกรุณาส่ง PM ที่อยู่มาให้ผมด้วยนะครับ


สำหรับยอดทำบุญสร้างศาลาฯคร่าวๆ
วาระวันแม่แห่งชาติได้ทั้งสิ้นที่ 123,000 บาท


โมทนาสาธุทุกประการครับผม


IT Man:
พาน ตัวนี้ น่าจะมาจาก...
พระพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์
พระ
พระพรหม
พ่อ

นาคน้อย...สอนธรรม
IT Man:
ท่านอดีตชาติมหาเศรษฐีเมืองแขก แถวๆพาหุรัด กำลังสาธิตวิธีปลงอสุภะให้เพื่อนๆนักรบธรรมชมคู่กับเจ้าต่ำ สุนัขแสนรู้คอยนำทาง ร่วมฟังธรรม และชมการสาธิตกับพวกเรา...เหล่านักรบธรรมแห่งภูดานไห

Somlatri:
ภาพหนึ่งของนักรบธรรม ที่ให้กสิณแก่พวกเราในเรื่อง อสุำภกรรมฐาน หุหุ
ส่วนท่านสุนัขน้อย ผู้ติดตามพระอาจารย์ไปทุกฝีก้าวตั้งแต่ขึ้นภูผาผึ้ง ท่านนำทางผมและนักรบธรรม และแสดงให้ผมเห็นว่าแม้แต่ท่านผู้ที่อยู่ใน "เดรัจฉานภูมิ" อย่างท่านนี้ จิตข้างในร่างนั้น มิใช่จิตที่ต่ำตามภพภูมิเลย ขอบพระคุณที่ท่านสุนัขน้อยที่สอนธรรมบางอย่างให้กับผม

Somlatri:
กราบขอบพระคุณ
ท่านอ.ร่วมชาติและครอบครัวที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นที่สุด น้ำใจอันงามของท่านและครอบครัว ผมจะระลึกอยู่เสมอไป
ผลบุญที่ท่านได้อุปัฎฐากพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น มีมหาอานิสงส์สุดประมาณ

กราบขอบพระคุณ
ท่านแม่ชมที่ให้การดูแลเอาใจใส่พวกเราอย่างผู้ใหญ่อันน่านับถือยิ่ง ให้การดูแลที่พัก อาหาร อย่างอบอุ่นดุจพวกผมได้มากลับมาอยู่ยังบ้านที่มีคุณแม่ใหญ่ให้การเอื้ออาทรอุปการะอย่างสุดประมาณ

ดร.นนต์:
ขอร่วมอนุโมทนาและกล่าวคำสาธุการด้วยเช่นกันครับ

ครูชาติ:
ขอบคุณนักรบธรรมทั้งหลายเช่นกัน ... การต้อนรับเหล่านักรบธรรม เป็นหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่งที่ผมต้องกระทำ คล้ายๆ กับผมได้ตอนรับญาติมิตรที่จากกันไปนาน...ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังบกพร่องพวกท่านในหลายๆ ด้านด้วยซ้ำ ให้การต้อนรับพวกท่านไม่ค่อยดี เท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ดีใจที่ได้พบเหล่านักรบธรรมทุกท่าน นี่แหละเขาเรียกว่ามาสร้างบารมีร่วมกัน จะอยู่ห่างไกลกันเพียงใด อายุ และวัยจะห่างกัน แต่ก็มีจิตใจร่วมกันในบุญกุศล มีศรัทธา ร่วมกันเพราะสิ่งที่เราทำคือการบำเพ็ญ การสร้างสมบารมีร่วมกัน และที่สำคัญมีพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่เคารพสูงสุดคนเดียวกัน...จึงทำให้เรารวมกันเป็นหนึ่ง..สู้ต่อไปนะนักรบธรรม... ผมก็จทำหน้าที่ และสร้างที่นี่รอพวกท่าน ....
และขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาเยี่ยมภูดานไห แทนพ่อแม่ครูอาจารย์ และคุณแม่ชมด้วย ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...ปฏิบัติธรรมมีความก้าวหน้าทุกท่านด้วยเทอญ..

Indhus: 15-08-2011, 11:21 PM  #3861

ท้องฟ้าวันที่ 13 สิงหาคม 2554 เป็นเช่นนั้นตั้งแต่บ่ายจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจริง ๆ ครับ
ท่าน ดร.นนต์ เพราะผมขับรถมองท้องฟ้าเกือบตลอดพร้อมกับระวังทางไปด้วย น่าอัศจรรย์ใจอย่างเป็นที่สุดแต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ไปร่วมเดินทางที่ภูผาผึ้ง แม้ผมจะเคยไปแล้ว แต่คราวก่อนปัญญายังอับทึบไม่สามารถเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้

หากแต่การได้ร่วมฟังธรรมเทศนาพร้อมกันกับเหล่านักรบธรรม ร่วมกันคราวนี้เป็นคราวที่สอง
กลับทำให้ผมเข้าใจในวิถีทางการปฏิบัติได้มากกว่าเดิมเยอะเลย

คราวต่อ ๆ ไปผมเองได้แต่หวังว่าผมจะตามทุก ๆ ท่านแม้จะไม่ทัน ก็คงจะให้ใกล้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

สำหรับเกศาธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ คราวนี้ (ปลงเมื่อวันที่ 13 ส.ค.) มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
เพราะก่อนหน้านี้เมื่อคราววันวิสาขบูชา ตอนเข้าพรรษายังพึ่งจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน
แต่คราวนี้ทั้งรวมเป็นกลุ่มเร็วและเปลี่ยนเป็นเกศาธาตุสีทองอีก อัศจรรย์ใจจริง ๆ ครับ