วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

66: ภูดานไห บ้านในทางธรรมของข้าพเจ้า




[quote=chomdham;5645545]
ภูดานไห
ภูดานไห เป็นภูเล็ก ๆ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผลาญหิน ไม้ที่จะขึ้นได้ส่วนใหญ่ต้องเป็นไม้ทนแล้ง เช่นไม้รัง ไม้ล้านเศร้า (ไม้เปลือยชนิดหนึ่ง) ไม้ข่อยดาน ไม้มะกอกเลื่อม ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้อล่าง ไม้กะบก ไม้จันทน์ผา และกล้วยไม้บางชนิด หน้าร้อนร้อนพอทน หน้าฝนฝนตกพอให้ชาวนาได้ปลูกข้าวไม่ถึงกับแล้ง ไม่ถึงกับท่วม พอดีๆ หน้านี้หน้าหนาวกลางคืนอากาศหนาวลมแรง กลางวันอากาศร้อน อากาศที่ภูดานไหขณะนี้กำลังดี เย็นสบาย ๆ ไม้รัง ไม้ล้านเศร้า กำลัง ผลิดอก ออกใบ ใบรังกำลังเติบใหญ่ สีแดงสด บงบอกถึงความสดใส เจริญงอกงาม เหมือนรอคอยการมาเยือนของญาติธรรมผู้ใฝ่บุญในกาลไม่นานนี้ นกป่านาๆ ชนิด ส่งเสียงร้องสดใสน่าบันเทิงใจ เหมือนดีใจที่รู้ว่าที่นี่จะเป็นสถานที่บำเพ็ญบุญกุศล อยู่ใกล้แล้วมีความสุขอบอุ่นใจ กลางวันตามปกติจะมีญาติโยม ผู้เฒ่าผู้แก่ หญิงชายต่างพากันกุลีกุจอ ช่วยกันปัดกวาดถากถางหญ้า ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดบริเวณวัด มองดูแล้วน่าอนุโมทนาในกุศลเจตนาของคุณตาคุณยายทั้งหลายเหล่านี้ ทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายอันเดียวกันคือ ได้สนองงานพ่อแม่ครูอาจารย์ ทำบุญกับท่าน เอาบุญกับท่าน ช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยมีแม่งานคือ อุบาสิกาบุญชม ช่วยทั้งกำลังกาย ทั้งความคิด ช่วยประสานงานทุกอย่างให้งานทุกชิ้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ที่สำคัญก็คือทุกๆ คน คือคนสำคัญที่จะทำให้สถานที่นี้ได้เป็นพุทธสถาน คือสถานที่ที่พวกเราชาวพุทธจะได้ใช้เป็นสถานที่ประพฤติปฏิบัติธรรม สั่งสมบุญบารมี เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ร่วมกัน ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาทุกท่าน ไม่ว่าคนอยู่ใกล้ ไม่ว่าคนอยู่ไกล และเหล่านักรบธรรม (นรธ.)ทุกๆ ท่านที่มีส่วนช่วยในการสร้างวัดวาศาสนา ช่วยกันเป็นกำลังร่วมก่อสร้างถาวรวัตถุในทางพระพุทธศาสนา ให้เกิดขึ้นมีขึ้น ในวัดภูดานไหแห่งนี้ สิ่งที่พวกเราได้ทำไม่ใช่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เรา กำลังทำให้พระศาสนา ทำเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ฝากความดีไว้ให้กับพระศาสนา ให้กับโลก ให้ลูกหลานชาวพุทธที่อยู่ข้างหลังที่กำลังจะกำเนิดเติบใหญ่ตามมา ได้ใช้เป็นที่ บำเพ็ญบุญ ใครจะรู้ว่าต่อไปในภายภาคหน้าอาจจะมีพระอริยะเจ้าเกิดขึ้นในสถานที่ ที่พวกเราได้พากันสร้าง ณ ที่แห่งนี้ อาจเป็นไปได้ ถึงกระนั้นแม้จะมีผู้มาปฏิบัติ มีการให้ทาน รักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ เจริญเมตตาภาวนา ชำระกิเลสในใจของตน สิ่งเหล่านี้ก็นับว่าเป็นบุญของพวกเราแล้ว ที่ได้ร่วมกันก่อตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมที่นี่ขึ้นมา

ขอเจริญในธรรม
[/quote]
กราบขอบพระคุณและโมทนาสาธุท่าน chomdham ที่กรุณานำภาพและพรรณาภูดานไหให้เห็นภาพแจ่มชัดยิ่ง...
ทำให้ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จักพรรณาความในใจออกมาเช่นกันครับ

"ภูดานไห บ้านในทางธรรมของข้าพเจ้า"

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเปรียบเหมือนพ่อแม่ในทางธรรม ที่คอยชี้แนะแนวทาง/ขนาบให้ลูกๆได้เดินตรงตามรอยธรรม
พุทธสถานภูดานไหนั่นเล่า เปรียบเหมือนบ้านในทางธรรม ที่แสนอบอุ่น อบอุ่นทั้งสภาวะธรรม ทั้งสภาวะแวดล้อม (สัปปายะ)
อบอุ่นทั้งจากคุณแม่ชม คุณตา คุณยาย คุณพี่ คุณน้อง ที่เฝ้าคอยการกลับบ้านของเหล่านักรบธรรมอยู่เสมอๆ

วาระการมาร่วมฟังธรรม ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม ที่ภูดานไห โดยเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละหนึ่งครั้ง
แต่ละครั้งอาจจะหนึ่งคืน สองคืน หรือมากกว่า ตามโอกาสอำนวย ระหว่างที่อยู่ที่วัดก็เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติในทันที...
ก็เพราะเวลาของเรานั้นมีน้อยนัก น้อยทั้งเวลาที่อยู่ภูดานไห น้อยทั้งชีวิตอันแสนสั้น จึงต้องเร่งรีบ...
รีบทั้งอาการใส่ใจในธรรมอย่างมีสติ รีบทั้งอาการใส่ใจในการดำเนินรอยตามปฏิปทาอันเป็นของละเอียด

ผู้ที่จักเรียกได้ว่าศิษย์สายพระกัมมัฏฐานที่แท้จริง จึงไม่ใช่แต่เพียงทำบุญ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญภาวนาได้เท่านั้น!
"ปฏิปทา" ขององค์ท่านกลับเป็นสิ่งสำคัญยิ่งนัก เรา นรธ.จึงควรคอยศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติตาม
เพราะสิ่งนี้...จักเป็นแม่แบบที่สะท้อนถึงครูบาอาจารย์...กว่าท่านจักยอมรับศิษย์ที่แท้จริงได้ในแต่ละคนนั้นไม่ใช่ของง่าย
ข้าพเจ้าเองก็ยังมิบังอาจ อาจเอื้อมไปขนาดนั้น เพราะรู้ปฏิปทาของตนยังอ่อนด้อยและห่างไกลอยู่
จึงเป็นได้แต่เพียงผู้กำลังศึกษาตามแนวทางธรรมที่กล่าวมาข้างต้น หรือเตรียมอนุบาลก็คงไม่ผิดจากความจริงนัก

แต่แม้ว่าเวลาจะน้อยปานใด ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยอิ่มดีนัก ก็ได้เวลากลับบ้านในทางโลกเสียแล้ว
พอกลับมาบ้าน ก็สังเกตุเห็นว่า นรธ.ส่วนใหญ่จะมีอะไรดีๆกลับมาโดยอัตโนมัติ (หากเฝ้าสังเกตุ)
กล่าวคือ ดูเหมือนเราได้รับพลังแฝงอะไรบางอย่างมาด้วย (ท่านพิเชฐ) การปฏิบัติก็มีความเพียรคอยขยับขึ้นไปเรื่อยๆ

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ตักเตือนเสมอว่า "ไม่ใช่ว่าให้มาเคร่งครัดเฉพาะเวลาที่อยู่กับท่านนะ ต้องทำให้ได้แม้จะอยู่ห่างไกลกัน"
สิ่งนี้ผมเฝ้าตระหนักเสมอ แต่ก็หลุดได้เสมอเช่นกัน หึหึ

ดังนั้น "ปฏิปทา" จึงควรเป็นไปตามปกติวิสัย ทั้งยามที่มีท่านและยามที่ไม่มีท่าน
จึงจักเรียกตนเองได้ว่าเป็นนักรบธรรมหรือ "พุทธบุตร" อย่างเต็มภาคภูมิ

ขอให้มีกำลังเจริญในธรรม

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

65: แสดงมุทิตาสักการะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์

เรียน ญาติธรรมและ นรธ.ทุกท่าน,
เรื่อง ขอเชิญร่วมแสดงมุทิตาสักการะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

เนื่องด้วยวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปีกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 (ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555) เป็นวันสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีในการร่วมแสดงมุทิตาสักการะแด่องค์ท่านเป็นยิ่งนัก ผมจึงเห็นสมควรว่าน่าจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมถวายองค์ท่านและกริยาอื่นๆตามที่จะนึกขึ้นได้

แต่เนื่องจากสองวันดังกล่าวในปีนี้ ตรงกับวันธรรมดาหรือวันทำงาน ผมจึงขอโอกาสนี้ประกาศว่า เราจะเดินทางไปฟังธรรม ประพฤติธรรม ณ ภูดานไหในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2555

จึงขอเรียนเชิญทุกท่านไปร่วมงานวาระเดือนกุมภามุทิตาสักการะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ โดยพร้อมเพรียงกัน

นรธ.สมบัติ
19 ม.ค. 55


ครูชาติ:
คิดดีทำดี คนดีย่อมรู้ความกตัญญูกตเวที ในวันสำคัญอย่างนี้ พวกเราน่าจะรวมตัวกันอีกครั้ง ผมขอเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วยยินดียิ่ง....ขอให้ผู้ริเริ่มคิดในครั้งนี้จงมีความสุขสว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรม......ผมได้แนบแผนที่การเดินทางมาด้วยครับ
สมาชิกธรรม:
รับทราบและพร้อมไปร่วมงานวาระเดือน"กุมภามุทิตาสักการะแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช"

ดร.นนต์
ผมขอเพิ่มเติมรายละเอียดในแผนที่อีกนิดคือ บริเวณทางเข้าวัดภูดานไหจากถนนใหญ่ ให้สังเกต สถานที่ตั้งของสำนักงาน อบต.กุดหว้า จะอยู่ซ้ายมือถ้ามาจากทางกุดหว้า ให้ขับรถเลย อบต. ไปไม่น่าจะถึง 1 กิโลเมตร ให้ชลอความเร็วรถลง เพราะถนนทางเข้าเล็กอาจจะมองไม่เห็น ให้สังเกตมีบ้านหลังหนึ่งสีฟ้าอยู่ห่างถนนใหญ่ประมาณ 20-30 เมตร (บ้านหลังสีฟ้าเฉพาะหลังคาหรือตัวบ้านผมจำไม่ได้) ให้เลี้ยวลงไปในซอยนั้นครับ


Indhus:
ระยะระหว่างทางที่จะเข้าไปวัดภูดานไห ต้องอาศัยการสังเกตให้ดี หากถึงที่ทำการ อบต.กุดหว้า แล้วก็ต้องชะลอรถกันแล้ว
และฝากให้สังเกตเพิ่มเติมแบบละเอียดขึ้นอีกหน่อย คือ
ถัดจาก อบต.กุดหว้า จะมี ที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าไม้ และไม่ไกลกันก็จะมี ปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ ปั๊มนึง
ต่อจากนั้นก็จะเป็นสวนยางพาราอยู่ประมาณ 2 สวน (ไม่นับสวนที่อยู่หลังปั๊มน้ำมัน)
ตรงสวนสุดท้ายก่อนจะถึง บ้านหลังคาสีฟ้า (อาจจะสังเกตลำบากเพราะมีต้นไม้บัง) ต้องชะลอรถให้ช้าลงกว่าเดิม
ถ้าเลยบ้านหลังคาสีฟ้าไปแล้ว จะเป็นทางโค้งผ่านทุ่งนาและขึ้นเนินเขา นั่นหมายความว่า เลยทางแยกเข้าวัดภูดานไหแล้วครับ
ปล. ใครที่ไม่เคยไปหรือไม่แน่ใจให้จอดรถแวะถามที่ อบต.กุดหว้าได้ครับ
(รู้สึกว่าจะมีหน่วย อปพร. ประจำการอยู่เกือบตลอดเวลา ให้พี่ ๆ แถวนั้นนำทางไปจนถึงทางเข้าวัดได้)


วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

64: โครงการบูรณะหอฉัน

ชี้แจงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบน้ำที่พึ่งจ่ายไป ณ ภูดานไหมีดังนี้
1. ท่อประปารอบวัด 13,360- จ่ายแล้ว
2. ค่าปั๊มน้ำ 7,800- จ่ายแล้ว
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ต้องจ่ายคือ..
1. การขุดน้ำบาดาลใหม่โดยใช้เครื่องขุดเจาะขนาดใหญ่ 20,000 บาท (ดำเนินการอยู่)

ความคืบหน้าในการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
การออกแบบ (คุณสันติ,คุณเก่งและคุณนคร)
- ตอนนี้ทางครูชาติได้ส่งแบบ plan คร่าวๆให้ทางคุณนครช่วยประเมินราคาให้
- เมื่อได้ข้อมูลแล้ว คุณสันติจะเข้า กท. เพื่อปรึกษาคุณนคร
- แล้วสรุปงานนำกราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์ต่อไป
การหาช่างก่อสร้าง(ทางอิสาน)
- อยู่ระหว่างการติดต่อช่างทางจ.ร้อยเอ็ด
- จะเข้ามาคุยพร้อมกับคณะคุณสันติ
ยอดบริจาคสร้างศาลาฯปัจจุบันประมาณ 650,000-
ค่าก่อสร้าง(ประเมิน)ประมาณ 1,500,000-

แบบแปลนศาลาปฏิบัติธรรม วัดพระธาตุเกศแก้วเกศาธรรม ภูดานไห ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีขนาดพื้นที่ภายนอก 21 x 24.40 เมตร พื้นที่ภายใน 14 x 20 เมตร ชั้นเดียว ออกแบบโดยคุณเก่งกาจ ทองดำ ประเมินค่าก่อสร้างประมาณ 1,500,000 บาท

ขออนุโมทนาและขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกแบบ ประเมินราคา ประสานงาน ผู้ร่วมทำบุญ และผู้ร่วมแรงใจแรงกายทุกท่านครับ

ปล. ชื่อ วัดพระธาตุเกศแก้วเกศาธรรม นั้น ผมได้ยินแว่วๆมาประมาณนี้ คงต้องฟังจากพ่อแม่ครูอาจารย์อีกครั้งว่า ชื่อที่แท้จริงของวัดนั้นคืออะไร

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
12 มกราคม 2555

ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างศาลาอยู่นี้
หอฉันที่ใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรมด้วย ที่เราเห็นสภาพทรุดโทรมและมีปัญหาในขณะนี้ (สร้างมาตั้งแต่ประมาณปี 2547) 
คือหลังคารั่วทางวัดจำต้องรีบเร่งบูรณะให้ทันก่อนหน้าฝน (ศาลาปฏิบัติธรรมเสร็จไม่ทันหน้าฝนแน่นอน) 
โดยจักเปลี่ยนเป็นโครงเหล็กและเปลี่ยนหลังคาเป็นสังกะสีหรือกระเบื้องคงดูกันอีกที
(ปัจจุบันใช้หญ้าคา/โครงไม้ยูคาและอื่นๆตามภาพ) 

ดังนั้น กระผมจึงขอบอกบุญทุกท่านในการบูรณะหอฉันและสถานปฏิบัติศาสนกิจ ณ ภูดานไห 
โดยการเปลี่ยนหลังคาที่รั่วอยู่นี้ เป็นโครงเหล็กมุงด้วยกระเบื้องหรือสังกะสี (กำลังดำเนินการ) 
และเมื่อศาลาฯเสร็จ(จะใช้เป็นหอฉันด้วย) หอฉันนี้..ก็จักเปลี่ยนเป็นเรือนรับรองของญาติธรรมฝ่ายหญิงหรืออื่นๆในลำดับต่อไป 

รายละเอียดในการเปลี่ยนหลังคาคือ
- โครงเหล็กสำหรับทำโครงสร้างหลังคา
- แผ่นกระเบื้องหรือสังกะสี
- ค่าแรงเชื่อมเหล็กและประกอบเป็นโครงหลังคา

รายละเอียดการทำบุญเพื่อบูรณะหอฉัน ณ ภูดานไห
- โอนปัจจัยทำบุญที่ลงท้ายด้วยเลข 2 เช่น 1,002 หรือ 10,002 เพื่อแยกแยะการทำบุญแต่ละเรื่อง
- โอนปัจจัยทำบุญตามหมายเลขบัญชีทางวัดโดยตรงคือ

ชื่อบัญชี นางบุญชม ยางธิสาร นางกัลยรัตน์ ชัยนา และนายร่วมชาติชัยนา 
เลขที่ 4160371736
ธนาคารกรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์

ขอให้ท่านแจ้งทางหน้าบอร์ด หรือ PM หรือ Mail หรือโทร. 
1. คุณแม่ชม: 080 1765282
2. คุณสมบัติ: 087 6832992 (it.man@hotmail.co.th)
3. ครูร่วมชาติ: 089 5694002 (ruamchart@hotmail.com)
มายังผู้เกี่ยวข้องท่านใดท่านหนึ่ง เพื่อที่จักได้รวบรวมรายชื่อถวายอีกทีครับผม


กราบขอบพระคุณและโมทนาสาธุครับ/IT Man
รูปภาพประกอบหอฉัน/สถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ (ฟังธรรม,ทำวัตร,ภาวนาและอื่นๆ)

พ่อแม่ครูอาจารย์ (23 เม.ย.54)

ประมาณเข้าพรรษา (16 ก.ค. 54)

ตักบาตรล่าสุด ปีใหม่ 55

ปฏิบัติธรรมในพรรษา 12 ต.ค. 54

แผ่นพลาสติกสีแดงกันรั่ว (ด้านบนมีมากกว่านี้)

ล่าสุดปีใหม่นี้...
ความคืบหน้าในการบูรณะหอฉัน,สถานปฏิบัติศาสนกิจ
1. ทำพิธีขอขมากรรมต่อการรื้อหลังคาและเสาไม้ของหอฉันนี้
เนื่องด้วยสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ได้ให้คุณต่อองค์พ่อแม่ครูอาจารย์และผู้มาปฏิบัติธรรมอย่างมาก
ดังนั้นการที่จะทำอะไรต่อสถานที่นี้ ก็ควรที่จะกระทำด้วยความเคารพนอบน้อมและขอขมาก่อน (พ.สุรเตโช)
2. ดำเนินการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ (เหล็ก,กระเบื้องและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ปูน,น้ำมันดีเซล) รวม 50,500 บาท (จ่ายแล้ว)
3. ค่าช่างในการก่อสร้าง น่าจะประมาณหมื่นกว่าบาท (กำลังดำเนินงาน)

ที่มาของปัจจัยในการบูรณะหอฉัน
1. ปัจจัยที่มีเจตนาน้อมถวายแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์โดยตรง
2. ปัจจัยที่ไม่ได้จำเพาะเจาะจงในการบริจาค
3. ปัจจัยที่มีเจตนาในการบูรณะหอฉันโดยตรง (ลงท้ายด้วยเลขสอง)
3.1. ผมขอบริจาคร่วมในการบูรณะหอฉัน 2,002 บาท

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้ฝากโมทนาสาธุในกุศลนี้และอวยพรให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญทุกๆท่านเทอญฯ
ข้าพเจ้าขอโมทนาสาธุในกุศลนี้ด้วยทุกประการครับ/IT Man

วันนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ผมได้รับโทรศัพท์จากญาติธรรมจากทางจังหวัดมุกดาหารคือคุณธานินทร์ สิงห์ด้วง พร้อมด้วยครอบครัว ได้โอนปัจจัย จำนวน 2,000 บาท ร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรมภูดานไห ก็ขอให้คุณธานินทร์ พร้อมครอบครัวจงมีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรม อยู่ไม่ไกลกันนักหากมีเวลาก็อยากชวนมาร่วมฟังธรรม และปฏิบัติธรรมร่วมกันนะครับ วันที่ 2- 5 กุมภาพันธ์ 2555 ที่จะถึงนี้ก็จะมีการร่วมแสดงมุทิตาจิตกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช หากว่าก็ขอเชิญนะครับ
ศาลาหอฉันท่านจะสังเกตุได้ว่า...
1. ทำไมต้องทำหลังคาเตี้ยๆ
2. ทำไมต้องก่ออิฐเพิ่ม
3. ทำไมต้องติดกระจก
4. ทำไมต้องเสาเหล็ก
ทำไม...ฯลฯ
เนื่องด้วยสภาพจริงบนเขา...ลมแรง ฝนสาดแรง ฝุ่น...ใบไม้...มด...ปลวก!
การลงทุนลงแรงครั้งนี้ คงต้องการให้รวดเดียวจบ จักได้ไม่ต้องเสียเวลา/ปัจจัยหลายรอบ
แว่วๆว่า ท่านจักทำเป็นพิพิธพันธ์น้อยในกาลอนาคตด้วย

ดังนั้น...การใช้จ่ายทุกบาท การลงแรงหรือสติปัญญา จึงนับว่าคุ้มค่ามากๆ

ข้าฯขอโมทนาสาธุทุกๆแรงในการทำการนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว...ก่อน 2-5 ก.พ.55
วันแสดงมุทิตาสักการะแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เด๊อ...

63: กราบสักการะองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ

ภาพเมื่อคราวพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เข้ากราบองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เนื่องวาระปีใหม่ 2555 วันที่ 2 มกราคม 2555 เวลา 15.30 น. ณ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ต.บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี มุกดาหาร 
 

ความเมตตาที่องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่มีต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

ความเมตตาที่องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่มีต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช

ความเมตตาที่องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่มีต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช 
 

 

พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช กราบแทบเท้าองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ

 

พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ช่วยประคององค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ออกไปโปรดญาติโยม

พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ช่วยประคององค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ออกไปโปรดญาติโยม

พระธมฺมธโร (ครูบาแจ๋ว) เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม ต.บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี มุกดาหาร กับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช กำลังสนทนาธรรม......
ข้าพเจ้าขอ กราบ กราบ กราบ พระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า......

ข้าพระพุทธเจ้า...ขอนอบน้อมบูชาพระคุณ
ขอกราบพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลายด้วยเศียรเกล้าขอรับ

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ
อยากบอกว่า...เสียดายโอกาสอันดีงามแทน นรธ. ที่รีบกลับมากๆ 
เพราะภาพในเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆเลย
ครูชาติ
เห็นพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ท่านก้มกราบองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ดูแล้วองค์หลวงปู่จาม ก็ยิ้มอย่างมีความสุขทำให้ผมรู้สึกปิติอย่างมาก นับว่าเป็นบุญกุศลที่สุดในชีวิตที่ได้มีโอกาสได้เข้ากราบองค์หลวงปู่จาม พร้อมกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์พร้อมๆ กันถึงสององค์ และ พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ท่านก็ได้แสดงให้พวกเราได้เห็นว่าเวลาเข้าหาผู้ใหญ่เราต้องวางทุกอย่างตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง และเมื่อไปถึงวัดท่านก็ยังไม่เข้าไปกราบองค์หลวงปู่ ท่านต้องรอให้ถึงเวลาของท่านแล้วค่อยไปกราบเรียนเจ้าอาวาส (พระธมฺมโร ครูบาแจ๋ว) แล้วเข้าไปกราบองค์หลวงปู่ เวลาเข้าไปกราบองค์หลวงปู่ท่านก็ทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนปล่อยวางมานะทิฏฐิทุกอย่าง ซึ่งมองดูแล้วสวยงามเสมือนท่านสอนเราโดยการปฏิบัติให้ดู.....

พอเข้าไปกราบองค์หลวงปู่จาม ตอนแรกองค์หลวงปู่ท่านก็นอนพักผ่อนอยู่ พอพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ก้มกราบองค์หลวงปู่ ท่านก็เอามือมาลูบหัวและกอดพ่อแม่ครูอาจารย์ แสดงออกถึงความหวงหาอาทรกัน เท่านั้นแหละครับทำเอาพวกเราที่อยู่ในเหตุการณ์เกิดปิติอย่างมาก จนกลั้นน้ำแห่งความปิติไม่อยู่ ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นไปไม่อาจบรรยายออกมาได้.... ขอเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจก็แล้วกันเพราะข้อความที่จะเขียนออกไปคงไม่สามารถทดแทนความรู้ปิติที่ผมมีอยู่ได้...ผมก็ขออนุโมทนาสาธุในเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย และขอ กราบ กราบ กราบ พระอริยสงฆ์ทั้งสองด้วยเศียรเกล้า....
IT Man:
หาก นรธ.พูดถึงการเข้าไปกราบองค์หลวงปู่จามเมื่อไหร่ พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านจะพูดเสมอๆว่า "หลวงปู่ท่านเฒ่าแก่ อายุสังขารก็มากเกินร้อยแล้ว ไม่อยากให้ไปรบกวนท่าน" พ่อแม่ครูอาจารย์พูดด้วยความเป็นห่วง 

ผมเองก็ตระหนักสำนึกอยู่รู้เสมอๆ (แต่ก็เคยไปกราบสองถึงสามครั้ง ได้พบองค์ท่านเสมอ) ในครานี้...จึงไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่า ในที่สุดพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านก็ได้เมตตานำพาพวกเราถือเป็นวาระพิเศษ โดยได้ใช้รถตู้ของ นรธ.อู๊ด รถครูชาติ และรถท่านพิเชฐ

ไปถึงยังไม่ได้เวลาเข้ากราบ ก็เลยแวะชมกราบสักการะรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งองค์หลวงปู่จามในศาลา ณ ที่นี้พ่อแม่ครูอาจารย์พบพระธาตุเสด็จหนึ่งองค์ จากนั้นขึ้นสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ ณ ที่แห่งนี้พ่อแม่ครูอาจารย์ก็ได้รับพระธาตุเสด็จอีกสององค์ รวมเป็นสามองค์

จากนั้นเยี่ยมชมนิทัศน์การหลวงปู่จามและออกเดินทางไปยังเจดีย์แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ ซึ่งไม่ไกลจากที่วัดมากนัก ณ ที่แห่งนี้พ่อแม่ครูอาจารย์เทศน์โปรดพวกเรา พอถึงเวลาอันควรท่านก็ให้ออกเดินทางไปยังวัดอีกครั้ง

พอไปถึงวัด ก็ได้นั่งรออยู่ห่างๆ เห็นฝูงมหาชนเดินเข้าไปเพื่อจะไปกราบองค์หลวงปู่(เพราะจัดเป็นเวลา) แต่เนื่องจากมหาชนมากมาย ทำให้พ่อแม่ครูอาจารย์ออกอาการไม่อยากเข้าไปรบกวนองค์หลวงปู่ จึงให้คุณแม่ชมและนรธ.อู๊ด เข้ากราบเรียนครูบาแจ๋ว ว่าพ่อแม่ครูอาจารย์จะขออนุญาตเข้ากราบองค์หลวงปู่จะได้หรือเปล่า?และกำชับว่าไม่ขออภิสิทธิ์ใดๆ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนญาติธรรมทั้งหลาย ที่อยากมากราบองค์หลวงปู่เช่นกัน

ครูบาแจ๋วก็ได้ถวายน้ำปานะมายังพ่อแม่ครูอาจารย์และบอกว่าได้ รอสักพักพวกเราก็ขออนุญาตเข้าไปยังกุฏิองค์หลวงปู่จาม...

62: บ่ายที่ 2 ม.ค. 55 กราบองค์หลวงปู่จาม

จากนั้นช่วงบ่ายวันที่ 2...พ่อแม่ครูอาจารย์ได้นำพาไปกราบองค์หลวงปู่จาม
ภาพชุดแรก...


ณ ที่แห่งนี้ พ่อแม่ครูอาจารย์พบพระธาตุเสด็จ หนึ่งองค์

จากนั้นไปกราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์


สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน

ณ ที่แห่งนี้ ได้พบพระธาตุเสด็จอีกสององค์

รวมเป็นสามองค์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือไตรลักษณ์ หรือ อื่นๆ

ไปชมนิทรรศการ ผู้มากมีบุญบารมี




พระบรมธาตุเจดีย์
พระสมเด็จองค์ปฐม
ญาติธรรม
ระหว่างรอเวลาเข้าเยี่ยมนมัสการฯ ก็ข้ามไปอีกฟากถนนประมาณ 3-5 กม
ณ เจดีย์คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ









พระธาตุของคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ








ภาพชุดสุดท้ายของทริปนี้...หลังจากกราบคุณแม่ ก็ออกมาฟังธรรม ณ ลานธรรมอันร่มรื่น
และออกเดินทางไปยังวัดป่าวิเวกวัฒนาราม เพื่อนมัสการองค์หลวงปู่จาม (หน้าที่ 333)



ปฐวีธาตุ 



เมื่อกลับถึงภูดานไห...ก็สนทนากันพอสมควร
ประมาณ 5 โมงเย็น ผมและคณะคุณพิเชฐ:ขอขมาและลากลับ