วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

113: ธรรมะจากซึ้งบน

สวัสดีครับเพื่อนนักรบธรรมทุกท่านครับ ช่วงนี้หายไปจากบอร์ดไม่ได้โพสข้อความ แต่ก็พยายามติดตามความเคลื่อนไหวตลอดครับ เห็นเพื่อนนรธ.ช่วยกันทำบุญ ในการสร้างศาลาฯ, หอฉัน, โรงครัว ฯลฯ ก็ขออนุโมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านด้วยครับ

เมื่อวันที่ 23-25 ก.พ. ที่ผ่านมาได้มีโอกาสขึ้นไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่ภูดานไห ช่วงนี้ที่ 'ดานไหอากาศร้อนมาก ก็ร้อนเฉพาะกายเท่านั้นแหละครับ แต่ไม่ยอมให้จิตร้อนตามไปด้วย พยายามทำให้จิตของเราทนอยู่กับความร้อนให้ได้ ไม่ยอมตามใจจิตมัน มันอยากจะให้หลบเข้าไปในที่เย็นที่สบาย ก็ฝืนให้มันทนอยู่กับความร้อนอย่างนั้น ดูซิว่าจะเป็นอย่างไร

พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านสอนว่า ธรรมชาติของจิตแล้วชอบความสบาย ตรงไหนสบายก็อยากจะอยู่ตรงนั้นแหละ แต่ถ้าเราปล่อยจิตของเราอย่างนั้น มันจะเป็นสบายในตอนแรกแล้วจะลำบากในตอนท้าย ฉะนั้นอย่าได้คอยตามใจมัน ต้องให้คอยฝึกจิต ฝึกให้มันเคยชินกับความลำบาก ให้ลำบากก่อนแล้วค่อยสบายในตอนหลังจะดีกว่า ท่านมักเน้นในเรื่องการฝึกจิตอยู่เสมอ ครั้งแรกที่ได้ฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ท่านก็เมตตาสอนอีก คงสอนจนกระทั่งผมจะโผล่พ้นผิวน้ำแหละครับ

ท่านยกตัวอย่างสมัยท่านยังเป็นเด็ก วันหนึ่งอากาศร้อนมากเหงื่อก็ออกแทนที่ท่านจะถอดเสื้อ ท่านกลับเอาผ้าห่มมาห่มตัวอีก เหงื่อก็ยิ่งออก ท่านบอกว่า ท่านอยากจะรู้ว่าแล้วจิตจะเป็นอย่างไรต่อไป จิตจะทนไหวมั้ย ตอนนั้นท่านยังไม่เข้าใจว่านี่คือธรรม จนกระทั่งทุกวันนี้ ถ้าท่านนั่งภาวนาในกุฏิ อากาศมันร้อนก็จะทนนั่งอยู่อย่างนั้นแหละ นั่งจนกระทั่งจิตมันยอมรับความร้อนนั้น โดยไม่ร้อนใจ คือร้อนที่กาย แต่จิตกลับสบาย หรือถ้านั่งภาวนาตอนอากาศหนาว แทนที่จะห่มผ้า ท่านกลับห่มแค่จีวรบางๆ หรือถ้านั่งภาวนาในกลด แล้วถูกยุงเข้ามากัด ท่านจะเปิดกลดให้ยุงเข้ามากัดเลย

มันเป็นการฝึกจิต ให้แยกออกจากร่างกาย กายส่วนกาย ใจส่วนใจ กายแท้ๆมันไม่มีความรู้สึกนึกคิดใดๆเลย สุข-ทุกข์ เกิดขึ้นจากใจแท้ๆ ใจมีหน้าที่รับรู้อยู่แค่ใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับร่างกาย ต่างอันต่างทำหน้าที่รับรู้ของใครของมัน ตัวเราของเราจึงจะไม่เกิดขึ้น ท่านสอนเสมอว่าคนเราต้องมีสติ แต่เนื่องด้วยจิตของพวกเราเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่อาจจะมีสติได้ตลอดเวลา จึงอาจทำให้หลงได้บ้าง แต่เมื่อไหร่มีสติรู้ ก็ให้ปล่อยวางเสีย ฝึกบ่อยๆจะทำให้จิตของเราเบาสบาย และครองสติได้นานขึ้น ถ้าเราครองสติได้นานขึ้นเท่าไหร่ เราก็สามารถขจัดกิเลสภายในของเรา ให้ลดน้อยถอยลงไปได้เท่านั้น

ท่านสอนอีกว่า คนพาลภายนอกคือคนที่ไม่มีศีลธรรม คนที่เกเร คนที่ชอบข่มเหงรังแกคนอื่น ฯลฯ มันไม่น่ากลัวเท่า คนพาลภายในซึ่งก็คือกิเลสที่อยู่ในใจของเรา จำพวกความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง เหล่านี้ต่างหากที่น่ากลัว เพราะ มันสามารถนำพาเราลงสู่อบายภูมิได้โดยง่าย อย่างที่เราคิดไม่ถึง

ดังนั้นเราควรฝึกจิตของเราและเรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับคนพาลภายในให้ได้ เพราะเดิมพันนั้นมันใหญ่หลวงนัก ใหญ่หลวงนัก ครับ

ได้มีโอกาสอยู่รับใช้ใกล้พ่อแม่ครูอาจารย์ เห็นท่านทำงานแล้ว เหนื่อยแทนท่านครับ อะไรที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้ก็พยายามทำ ทำให้เต็มที่ครับ เคยกราบเรียนถามท่านว่า พ่อแม่ครูอาจารย์ เหนื่อยมั้ยครับ ท่านบอกว่า ไม่เหนื่อยหรอก ทำงานไปด้วย ภาวนาไปด้วย เพียงแต่เปลี่ยนอิริยาบทการภาวนาเท่านั้น

เช้า...เห็นท่านออกมาจากกุฏิตอนเช้า แล้วออกไปบิณฑบาตรที่กุดหว้า กลับมาทำงานสักพัก แล้วค่อยฉันจังหัน หลังจากฉันเสร็จแล้วก็ทำงานตลอดวัน ไม่ได้กลับเข้ากุฏิพักอีกเลย จนกระทั่งกลับไปสรงน้ำเกือบ 5 ทุ่ม แล้วก็กลับออกมา เมตตาสั่งสอนธรรมจนใกล้จะ ตี1 ท่านจึงให้คนอื่นพักผ่อน ส่วนตัวพ่อแม่ครูอาจารย์ ผมคิดว่าท่านคงกลับไปภาวนาแล้วเดินจงกลมต่อที่กุฏิครับ

วัตรปฏิบัติเยี่ยงนี้ ผมอยู่กับท่านตลอดทั้งวันทั้งคืน น้ำตามันตกในครับ ทั้งเคารพสุดจิตสุดใจ ทั้งสงสารธาตุขันธ์ของท่าน โดนยุงท้องมาร กัดที่แขนข้างซ้าย แขนบวม 2-3 วันค่อยยุบ วันหลังเป็นหวัดลงคอ เสียงไม่มีเลยครับ ลำตัวด้านซ้าย มีอาการชาเพราะเอี้ยวตัวทาสีนานนานครับ ท่านบอกว่าตัวท่านไม่เป็นอะไร ธาตุขันธ์ต่างหากที่เป็น

ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชเจ้า ขอให้ผู้ข้าและเหล่านรธ.ทุกท่านเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉียบแหลม ร่างกายสมบูรณ์ พูนผลด้วยธนสารสมบัติ ผู้ข้าและเหล่านรธ.จะขอสนองงานของพ่อแม่ครูอาจารย์ ทุกประการ ในการสร้างวัดเกศแก้วเกศาธรรมแห่งนี้ ให้สำเร็จลุล่วงสมความปรารถนา ของพ่อแม่ครูอาจารย์ เพื่อน้อมถวายเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา สืบสานพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตลอดกาลนาน เทอญ...

ขอน้อมกราบแทบบาทพ่อแม่ครูอาจารย์
ปล.ถ้าถ้อยธรรมนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใดก็ตามที่ได้เข้ามาอ่าน ผู้ข้าขอยกความดีทั้งหลายทั้งปวงให้แด่พ่อแม่ครูอาจารย์ ที่ได้พยายามอบรมสั่งสอนผู้ข้าให้เป็นบัวที่อยู่เหนือน้ำ

IT Man:
หายไปนาน แต่กลับมายังแน่นเหมือนเดิม ขอโมทนาสาธุในบุญกุศลและผลบุญที่ท่านซึ้งบนได้กระทำมาดีแล้ว
ขอขอบคุณมากๆที่ได้น้อมนำธรรมะแห่งองค์ท่านมาร่วมเผยแพร่ ให้เหล่า นรธ. และผู้สนใจก้าวเดินในทางธรรมได้รับทราบและดำเนินรอยตามแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
ที่นอกจากท่านจักเทศน์โปรดแล้ว ท่านยังทำให้ดู แสดงให้เห็น โดยไม่ได้กังวลหรือห่วงใยในสังขารเลย แม้ดูจะธรรมดาสำหรับท่าน แต่เราสะเทือนใจ
ทั้งนี้ก็คงเพื่อให้เหล่าศิษย์ผู้ศึกษา ตระหนักรู้ สำนึกได้ และสะกิดในใจว่า "นี่เรากำลังทำอะไรอยู่"
ผู้ที่จักได้ธรรมมาครอง ต้องผ่านการศึกษาพิจารณา กาย > เวทนา > จิต > ธรรม อันเกิดขึ้นภายใต้กฏไตรลักษณ์กระนั้นหรือ? เริ่มเข้าใจนัยยะบางประการแล้ว

พูดถึงตรงนี้...ก็นึกย้อนกลับไปตอนเดินขึ้นเขา ติดตามองค์ท่านเพื่อเข้าไปเยี่ยมชม,ภาวนาในถ้ำแก้วโกมล อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ตอนนั้นก็เดินตามหลังท่าน พยายามไม่ให้ห่าง จนได้สักประมาณ 1 กม. อาการของผมเป็นตายเท่ากัน เนื่องจากเหนื่อย หายใจไม่ทัน
องค์ท่านบอกว่า "หากเดินตามปกติธรรมดาก็ไม่เป็นไร แต่นี่...อยากเดินตามให้ทันครูบาอาจารย์ ผลก็เลยเป็นเช่นที่ว่า(ผมเสริมเอง)"

ทำให้ปกติเราต้องดูแลอุปัฏฐากท่าน กลายเป็นท่านต้องควานหายาดมและลูกอมวิเศษ รสชาดหวานเย็นดีที่สุดในโลก มามอบให้พวกเรา
ท่านบอกผมว่า "อินทรีย์ยังไม่แก่กล้า บารมียังไม่แก่รอบ ต้องทำความเพียรอีกแยะ(ผมเสริมเอง)"

ก็คงเป็นเพราะสบายๆทำตามใจมานาน ทั้งไม่ค่อยได้ฝึกฝนทั้งกำลังภายใน,ภายนอก คงอีกนานที่จักตามรับใช้องค์ท่านได้ในทุกสถานการณ์
โดยที่ไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นภาระแก่องค์ท่าน

ถึงเวลาของพวกเราแล้ว อย่าให้องค์ท่านต้องเจ็บป่วยอีกเลย...
ขอให้พวกเรารีบเร่งเร็วไว ฝึกไป ฝืนไป ทนไปเถิดครับ นักรบธรรมแห่งภูดานไห สักวันหนึ่ง เราคงได้ธรรมมาครอง
ก็เพราะเราตามกันมา ประคับประครองกันมา ด้วยความปรารถนาหนึ่งเดียวที่ตั้งมั่น ไม่คลอนแคลนเป็นสอง มาโดยตลอดทุกภพชาติครับ
(ขอขอบคุณคุณแม่ฯที่ไขข้อสงสัยบางประการครับ)

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

112: ผู้ช่วยทำงาน

ผู้ช่วยทำงาน
วันนี้คุณซึ้งบน พร้อมด้วยภรรยาได้เดินทางมาจากจังหวัดจันทบุรี และได้ร่วมทำกิจวัตรพร้อมกับคุณแม่ชม และคุณแม่ชีคอย ขออนุโมทนาในบุญกุศลกับทุกๆ ท่านด้วยนะ...และวันนี้ก็มีผู้ช่วยมาช่วยงานสร้างกุศลเช่นเคย...ดูภาพประกอบด้านบน...
 
ข้าพเจ้าขอโมทนาสาธุในบุญกุศลที่ท่านซึ้งบนได้เดินทางไกลนับพันกิโล (ไป-กลับ)
ฝ่าฟันอุปสรรคน้อยใหญ่ ทั้งภายใน ภายนอก ก็เพื่อจะมาสร้างบุญ สนองงานองค์ท่านและพระศาสนา

ท่านอยู่ไกล ก็เหมือนอยู่ใกล้ จึงขอให้ความเคารพในความมานะของท่านและภรรยา

ขอโมทนาสาธุกับเหล่าเทพเทวาน้อยใหญ่ที่ได้ลงมาเป็น ผู้ช่วยทำงาน ทุกๆภพทุกๆชาติ
ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านมาบำเพ็ญเพียร จวบจนกระทั่งถึงคราวาระแห่งองค์ท่านในที่สุด!

ขอโมทนาสาธุคุณแม่ชมที่เป็นประดุจดั่งคุณแม่ทั้งทางโลกทางธรรม คอยสอดส่องดูแลลูกๆ
คอยสนองงานองค์ท่านให้ผลของงานสำเร็จลุล่วงตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน

ขอโมทนาสาธุการ กำลังผู้เฒ่าผู้แก่ หนุ่มสาว น้อยใหญ่ ที่ละเว้น เสียสละภาระกิจทางโลก
มาของานทางวัดทำ บุญกุศลเหล่านี้ ข้าพเจ้าขอโมทนาสาธุ ขออำนาจแห่งบุญกุศลนี้
จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรืองทางโลก
กล่าวคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร สมบัติ ทั่วทุกทิวาราตรีกาลนาน
และทางธรรรม กล่าวคือ ที่สุดแห่งความพ้นทุกข์ จงทุกๆท่านเทอญฯ

111: ศาลาหอฉันจากอดีตถึงปัจจุบัน

ศาลาหอฉันจากอดีตถึงปัจจุบัน

ภาพศาลาหอฉันในอดีตที่ผ่านมา...

ภาพศาลาหอฉันในปัจจุบัน...
ขออนุโมทนาบุญกุศลกับคณะศรัทธาเจ้าภาพนักรบธรรมทุกท่าน ที่ช่วยกันร่วมทำบุญสร้างศาลาหอฉัน ให้เสร็จลุล่วงไปด้วยดี
ขอให้ทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในการบุญครั้งนี้ จงมีแต่ความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งภพนี้ ภพหน้า
ตลอดกาลนาน จงถึงที่สุดแห่งทุกข์ ทุกท่านเทอญ.....


ขอกราบขอบพระคุณท่าน chomdham มากๆครับที่กรุณานำภาพความสำเร็จ เสร็จสิ้นของหอฉันมาให้ชมอีกวาระ
ยังความปลื้มปีติให้พวกเราหล่า นรธ. และญาติธรรมที่ได้ร่วมบุญร่วมกุศลกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าพรรษาปีที่แล้ว จวบจนกระทั่งปัจจุบัน
และจะยังผลสืบต่อเนื่องไปในกาลอนาคตมิให้ขาดสาย ประดุจสั่งสายธารธรรมแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านได้โชลมดวงจิต ดวงใจ
ของผู้กำลังสั่งสมบุญ สะสมบารมีมิให้หลุดขาดจากเส้นทางธรรม มาทุกภพ ทุกชาติ ทุกกัปพุทธันดร
ก็เพื่อยังประโยชน์ให้กับสัตว์โลกผู้กำลังหลงทางอยู่ มืดมัวเมาอยู่ให้พบแสงสว่างในทางธรรม จนพ้นทุกข์เองได้ในที่สุด

หอฉันนี้ช่างสว่างไสวอยู่ท่ามกลางป่าเขาอันไกลโพ้น ประดุจแสงแห่งธรรมขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ที่ได้สาดส่องกระจายไปทั่วทุกหัวระแหง
ผู้อยู่ไกลก็เหมือนอยู่ใกล้ หากมีบุญญาบารมีเทพเทวาก็ดลใจให้เห็นองค์ในที่แท้จริงของท่านได้กระนั้นหนอ

ท่านจักเห็นความเปลี่ยนแปลงของภูดานไหจากอดีตที่หลังคาหอฉันคือไพลหญ้า โครงสร้างทำด้วยไม้เนื้ออ่อน
พื้นปูด้วยซีเมนต์หยาบๆประดับด้วยหิน แต่ปัจจุบันไม่เหลือของเก่าให้เห็นแล้ว

ดวงจิตดวงธรรมของพวกเราที่น้อมนำปฏิปทาแห่งองค์ท่านมาปฏิบัติมิได้ขาด ก็มีการพัฒนาตามไปด้วยเช่นกัน
จากอดีตที่มีแต่หลงว่าตนเองดี แต่ทุกวันนี้มันถูกพังทลายด้วยธรรมะของท่าน ที่คอยขนาบพวกเรา ขนาบแล้ว ขนาบเล่า
จนอ่อนปวกเปียกเมื่อนึกถึงองค์ท่าน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลว่า

ทำไม? พวกเราถึงน้อมองค์ท่านเหนือเศียรไว้เสมอตราบชั่วกาลนาน

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

110: ทำบุญรับ TOP4 สร้างวัดภูดานไห

วันนี้ได้มีผู้มีจิตศรัทธาจาก จ.เลย ร่วมทำบุญกับ ภูดานไห 1000 บาท โดยแจ้งความจำนงผ่านผม และได้โอนปัจจัยเข้าบัญชีทางวัดแล้ว ขออนุโมทนาบุญทุกประการครับ

พร้อมกันนี้ผมได้มอบพระสมเด็จ(Top4) แก่ท่านด้วย 1องค์ ขออานิสงค์ผลบุญได้อำนวยให้ท่านประสบแต่ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมครับ/ภูเบศว์
โมทนาสาธุกับญาติธรรมทาง จ.เลย อีกจังหวัดที่น่าอยู่ (เพื่อหลบภัยพิบัติ) ด้วยเด๊อ...

TOP4 : เมื่อท่านได้รับองค์พระพิมพ์แล้ว ขอความกรุณา...

- ขอขมาต่อพระรัตนตรัย ต่อหน้าองค์พระพิมพ์ (เพราะปกติไม่ค่อยเห็นส่งทางพัสดุ)
- ทำพิธีสรงน้ำองค์พระด้วยน้ำอบน้ำหอม
- อัญเชิญบูชาตามจิตศรัทธา
- ให้ความระมัดระวังและเคารพองค์พระเยี่ยงพระบรมสารีริกธาตุ
- ปฏิบัติธรรมถวายแด่องค์พระ ฯลฯ
- ด้วยพระพุทธานุภาพฯ :ขอความสว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมจงมีแด่ท่านและครอบครัวเทอญฯ

ปล: TOP4 องค์ที่อยู่ในภาพนี้...โดดเด่นสะดุดตาดีเนาะ /IT Man

ผมพึ่งรับทราบว่า "พระพิมพ์หลวงปู่ทวดกลักไม้ขีด หลังเจดีย์พระธาตุพนมวังหน้า" หมดลงแล้ว
ดังนั้นผมจักพิจารณาส่งพระพิมพ์หลวงปู่ทวดฯ ที่ญาติธรรมฝากไว้ร่วมทำบุญส่งไปให้แทนท่าน ดร.นนต์นะครับ
อนึ่ง พระพิมพ์สมเด็จระดับ TOP4 : ที่ท่านภูเบศว์แจ้งไว้ให้ทุกท่านร่วมทำบุญนั้น ยังพอมีอยู่นะครับ
ผมขอเรียนเชิญตามข้อมูลข้างล่างนี้ได้เลย ขอโมทนาสาธุบุญทุกประการฯ
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Phoobes อ่านข้อความ
พระวังอีกชุดครับ ที่นรธ.หลายท่านบูชาติดตัวอยู่ ด้วยพลานุภาพที่เปี่ยมล้น เป็นพระสมเด็จปิดทองร่องชาด ที่พวกเรารับรู้ในนาม พระTop4 ส่วนประวัติหรือรายละเอียด ท่านIT Manจะมีข้อมูลมากครับ

ผมอัญเชิญท่าน เพื่อมอบให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้าง สถานปฏิบัติธรรม ภูดานไห ที่ถวายปัจจัยทำบุญ ตั้งแต่1000บาท จะขอมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติ ระลึกถึงบุญกุศล และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตท่าน 1องค์
ได้สร้างบารมีร่วมกันครับ
โมทนาสาธุครับเป็นพระโลหิตุธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือของพระอัครสาวก,พระสาวกที่เป็นพระอรหันต์ครับ
ข้อมูลออกบ่อยๆและขึ้นชื่อจนเชื่อขนมกินได้มากๆ (ในกลุ่ม) รบกวนแวะชมที่นี่ก็ได้ครับผม

ชื่อบัญชีทำบุญ
นางบุญชม ยางธิสาร นางกัลยรัตน์ ชัยนา และนายร่วมชาติ ชัยนา
เลขที่ 4160371736
ธนาคารกรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์

109: พระหลวงปู่ทวดเพื่อร่วมทำบุญวัดภูดานไห

เมื่อวานหลังจากผมได้พบกับท่านสุทนแล้ว ท่านมีเมตตาได้มอบพระผงหลวงปู่ทวด ด้านหลังมีรูปหล่อโลหะองค์น้อยฝังอยู่ และบางองค์ฝังตะกรุดด้านหลัง ผมไม่ทราบที่มาว่าสร้างที่ไหน เมื่อไหร่ แต่ทราบแต่ว่ามาจากจังหวัดปัตตานี ผมตรวจสอบพลังแล้ว ปรากฏว่า มีพลังนุ่มนวลค่อยๆไหลเข้ามาจนเย็นซ่าไม่หยุดแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระหลวงปู่ทวดแท้ พระชุดนี้ หลวงปู่ทวดท่านเสด็จมาอธิษฐานจิตเอง(อทิสมานกาย) ข้อนี้ต้องให้ผู้มีญาณทั้งหลายตรวจสอบอีกทีว่าจริงหรือไม่ แต่ผมรับรองว่าเป็นพระดีอีกชุดหนึ่ง มีพลังเมตตา บารมี และแคล้วคลาดครับ
ปล.ท่านสุทนกระซิบมาว่า อาจารย์ช่วยเอาไปให้คนทำบุญถวายวัดภูดานไหด้วย ผมพิจารณาดูแล้ว หากมีผู้สนใจจะร่วมทำบุญโดยขอรับพระชุดนี้ ก็น่าจะเปิดราคาบุญที่องค์ละ 1,000 บาท (หมายเหตุ ผมขออนุญาตบวกค่าจัดส่ง EMS อีกองค์ละ 60 บาท เพราะวันๆผมส่งหลายที่ ก็เป็นเงินเยอะอยู่ จึงต้องรบกวนผู้ใจบุญจัดส่งค่าส่งมาพร้อมด้วยครับ) และผมขออนุญาตให้ร่วมทำบุญผ่านบัญชีของผมก่อน เพราะมีค่าจัดส่งด้วย หลังจากนั้นผมจะนำไปถวายพ่อแม่ครูอาจารย์อีกครั้งครับ
ชื่อบัญชี นายณัฐนนต์ สิปปภากุล
เลขบัญชี 503-269483-3
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครราชสีมา ประเภทออมทรัพย์
บุญกุศลในครั้งนี้ ผมขอยกให้ท่านสุทนและผู้ร่วมทำบุญทุกท่านครับ
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
18 กพ. 2555
ขออนุญาตเพิ่มเติมสักนิดนะครับ..
หลวงปู่ทวดชุดนี้มีจำนวนจำกัด เป็นพระกรุ มีร่องรอยการปิดทอง ผิวแห้งสนิท มีคราบไขขาวอันเป็นลักษณะเฉพาะของพระหลวงปู่ทวด ด้านหลังฝังรูปหล่อหลวงปู่ทวดแบบลอยองค์ขนาดจิ๋ว เฉพาะที่ฝังตะกรุดจิ๋วมีแค่ 5 องค์ เป็นพิมพ์ที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน อธิษฐานแล้วมีพลังตามที่อาจารย์ ดร.นนต์ กล่าว ทุกประการ..
ขออนุโมทนากับผู้ที่ทำบุญและโชคดีที่ได้ไว้ครอบครอง / d-crew
อนุโมทนากับผู้บูชาพระหลวงปู่ทวดเพื่อสร้างวัดภูดานไห (หมดแล้ว)

ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า บัดนี้การเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญบูชาพระหลวงปู่ทวดเนื้อผง เพื่อนำรายได้ไปน้อมถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เพื่อสร้างศาสนวัตถุวัดภูดานไห จำนวน 10 องค์ ได้หมดลงแล้ว ได้รับเงินปัจจัยที่จะน้อมถวายรวมทั้งสิ้น 10,000 บาท ผมจึงขออนุโมทนากับผู้ใจบุญทั้งหลาย ดังรายนามต่อไปนี้

1. คุณวันชัย เมฆชัยพร และครอบครัว (4 องค์) 4,000 บาท
2. คุณปรเมษ แผนวงษ์ 1,000 บาท
3. คุณธีระยุทธ์ สังฆ์ทอง 1,000 บาท
4. คุณอาวุธ ชินนภาแสน 1,000 บาท
5. คุณชูเกียรติ จันทนาม 1,000 บาท
6. คุณจักรพงษ์ ดำรงอาภาติ 1,000 บาท
7. คุณจักรกฤช ศรีเจริญ 1,000 บาท

รวม 10,000 บาท เมื่อผมโอนเงินไปเข้าบัญชีแม่ชมแล้ว ผมจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้งครับ

อนึ่ง ผมขออนุโมทนาบุญกับท่าน นาวาอากาศโทสุทน ยาพัน ผู้มอบพระหลวงปู่ทวดเพื่องานบุญนี้ทั้งหมด และขออนุโมทนากับผู้ใจบุญทั้งหลายที่ได้บูชาพระในครั้งนี้ ผมขอให้ทุกท่านจงมีความสุขความเจริญ สงบร่มเย็น สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรม จนกว่าจะเข้าพระนิพพานทุกท่านเทอญ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
23 กพ. 2555 
สมาชิกธรรม:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สมาชิกธรรม อ่านข้อความ
โมทนาสาธุบุญทุกประการกับทุกๆท่านด้วยนะครับ.....

หากว่าศรัทธาของญาติธรรมทั้งหลายยังหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายเช่นนี้.....ผมยินดีมอบพระเครื่องให้ท่านดร.นนต์ได้นำไปมอบตอบแทนแก่ผู้ที่ได้ร่วมทำบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรมและโรงครัวอีก9 องค์ครับ.....เป็นพระหลวงปู่ทวดพิมพ์กลักไม้ขีด(ลงกรุ)ซึ่งมีอิทธิคุณสูงครบเครื่องอีกองค์ของสายวัง โดยร่วมทำบุญ 1,099.-บาทมอบพระหลวงพ่อทวด 1องค์ครับ.....โดยการโอนเงินถึงท่านดร.นนต์โดยตรงเหมือนเดิมครับ

ปล.หากท่านดร.นนต์ไม่มีปัญหาอะไรขัดข้องผมจะส่งพระเครื่องชุดนี้ให้ถึงมือท่านภายในต้นอาทิตย์หน้านะครับ(คราวหน้าคงเป็นพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน3 องค์ตามที่แจ้งไว้ ทำบุญ10,999.-มอบพระหลวงพ่อเงิน1 องค์ เนื่องในวาระพิเศษจริงๆครับ)

ดร.นนต์
ขออนุโมทนาและยินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพระหลวงปู่ทวดพิมพ์กลักไม้ขีด(วังหน้า) ที่ท่านพิเชฐมีจิตศรัทธาจะบริจาคมาเพื่อให้ผู้ใจบุญทั้งหลายได้บูชา เพื่อนำเงินปัจจัยไปน้อมถวายแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อสร้างศาสนวัตถุวัดภูดานไหต่อไป ก็ขอให้อดใจรออีกนิดนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
24 กพ. 2555
สมาชิกธรรม:
ด้วยความยินดีเช่นกันครับท่านดร.นนต์.....เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาผมจะดำเนินการจัดส่งให้ในบ่ายวันนี้ พรุ่งนี้เที่ยงอาจได้รับนะครับ.....หากว่าเป็นที่ถูกใจและจำนวนไม่เพียงพอต่อศรัทธาของญาติธรรมทั้งหลาย ผมเพิ่มเติมให้ในภายหลังนะครับ.....
IT Man:
เรียนญาติธรรมที่ศรัทธาองค์ห์หลวงปู่ทวด,องค์หลวงปู่โตและคณะหลวงปู่ใหญ่



พระพิมพ์ชุดนี้ หากพลาดโอกาสทำบุญร่วมสร้างวัดก็นับว่าน่าเสียดายหลายแต๊
ขอโมทนาสาธุ
***************************
ขอเชิญร่วมทำบุญด้วยการบูชาพระหลวงปู่ทวดเพื่อสร้างวัดภูดานไห
พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พิมพ์กลักไม้ขีด กรุวังหน้า ที่สร้างมาเกือบ 150 ปีแล้ว มีผู้ตรวจสอบภายในแล้วปรากฏว่า คณะหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดรอธิษฐานจิตทั้งคณะ และเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อีกด้วย ผมขอรับรองว่า พลานุภาพนั้นสูงมาก แบบไร้ขีดจำกัด เด่นทางด้านป้องกันภัย(ภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น) แคล้วคลาด และเมตตาบารมี พลังของท่านจะค่อยๆปรากฏแบบนุ่มนวลแต่หลั่งไหลมาแบบไม่หยุด
ท่านพิเชฐ พันธุ์สุข กรุณาส่งมาจำนวน 9 องค์ เพื่อให้ทุกท่านได้บูชาเพื่อร่วมทำบุญกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชเจ้า จึงนับว่าได้บุญกุศลสองต่อ ท่านพิเชฐให้เปิดราคาบุญที่องค์ละ 1,199.99 บาท น่าจะรวมค่าจัดส่ง 100 บาท เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผมจะขอหักค่าจัดส่งไว้ องค์ละ 100 บาท ฉะนั้น จะยังคงเหลือยอดนำถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ 1,099.99 บาท และหากง่าย ผมขอให้ท่านโอนเงินเป็นเลขจำนวนเต็ม 1,200 บาท น่าจะง่ายกว่านะครับ (เพิ่มอีก 1 สตางค์) แล้วผมจะนำถวายยอดเต็ม 1,100 บาท ขอบุญกุศลจงบังเกิดแด่ท่านพิเชฐและผู้ใจบุญทุกท่านนะครับ
หมายเหตุ ตอนนี้เหลือ 8 องค์ครับ
หากท่านใดประสงค์จะร่วมทำบุญ กรุณาแจ้งผมมา แล้วผมจะบอกเลขที่บัญชีธนาคารผ่าน PM หรืออีเมลล์ส่วนตัวอีกครั้งครั้ง (ผมขอเอาเลขที่บัญชีส่วนตัวออกก่อนนะครับ เพราะท่านผู้อาวุโสเตือนมาว่า อาจเป็นเป้าของมิจฉาชีพได้)
Email. : dr.natdhnond@gmail.com, 085 7678 008
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
27 กุมภาพันธ์ 2555
***************************
ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า บัดนี้พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พิมพ์กลักไม้ขีด วังหน้า จำนวน 9 องค์ ที่ได้รับบริจาคมาจากท่านพิเชฐ พันธุ์สุข บัดนี้ได้หมดลงแล้ว โดยมีคุณมานิตย์ บูรณเจริญกิจ เป็นผู้แจ้งมาเป็นคนสุดท้ายเมื่อสักครู่ แล้วผมจะแจ้งยอดเงินปัจจัยที่จะนำถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ในลำดับต่อไป

ขอบุญกุศลทั้งหลายที่พวกเราได้ร่วมกันกระทำในครั้งนี้ จงมารวมยอดต่อบุญบารมีให้พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย จงมีแต่ความสุขความเจริญ สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานทุกท่านเทอญ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
28 กพ. 2555
***************************
IT Man:
เมื่อสักครู่ญาติธรรมทาง กทม.คุณคุณธีระยุทธ์ สังฆ์ทอง ก็แจ้งโอนปัจจัยทำบุญขอรับพระพิมพ์เป็นที่ระลึกมา 1 องค์
ผมพึ่งรับทราบว่า "พระพิมพ์หลวงปู่ทวดกลักไม้ขีด หลังเจดีย์พระธาตุพนมวังหน้า" หมดลงแล้ว
ดังนั้นผมจักพิจารณาส่งพระพิมพ์หลวงปู่ทวดฯ ที่ญาติธรรมฝากไว้ร่วมทำบุญส่งไปให้แทนท่าน ดร.นนต์นะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

108: กำหนดการ นรธ.เดินทางไปปฏิบัติธรรม

1. เดือนธันวาคม 2554-มกราคม 2555: วาระปฏิบัติธรรมข้ามปี 54-55
ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.54-2 ม.ค.55 (ผ่านมาแล้ว)


2. เดือนกุมภาพันธ์ 2555 : วาระมุทิตาสักการะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
หลังจากวาระมุทิตาสักการะแล้ว (3-5 ก.พ.55) คณะ นรธ. อีกกลุ่มที่อยู่ทางไกล
ก็จักเดินทางไปปฏิบัติธรรมและช่วยงานทางวัดระหว่างวันที่ 20-2x ก.พ. 55
แต่ก็เรียนเชิญผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมร่วมโมทนาบุญและร่วมปฏิบัติธรรม (หากมีเวลาว่างในวันธรรมดา)

3. เดือนมีนาคม 2555: วาระแทนคุณบิดามารดา

สำหรับเดือนหน้าเป็นวาระส่วนตัวของผมเอง หากท่านใดสนใจร่วมเดินทางไปปฏิบัติธรรม
และช่วยงานบุญของทางวัดก็ขอเรียนเชิญ ระหว่างวันที่ 23-24-25 มี.ค. 55 ครับ

4. เดือนเมษายน 2555: วาระสรงน้ำองค์พระในภูดานไห
คาดว่าจะจัดระหว่างวันที่ 13-21 เม.ย. 55
เรียน นรธ.และญาติธรรมที่เคารพ,เรื่อง ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงกำหนดการไปปฏิบัติธรรมช่วงสงกรานต์ (วาระสรงน้ำองค์พระแห่งภูดานไห)
จากวันที่ 6-15 เม.ย. 2555 เป็น 13-21 เม.ย 2555 เนื่องจาก

1. ช่วงวันที่ 6-15 เม.ย.55 ใกล้วาระแทนคุณบิดามารดา(23-25 มีนา 55) มากเกินไป (ห่างกันเพียง 12 วัน)
2. องค์พ่อแม่ครูอาจารย์จักต้องเดินทางไปถวายงานครูบาอาจารย์สายหลวงตามหาบัวประมาณวันที่ 20-21 เม.ย.55
และผมปรารถนาติดตามไปถวายงานแด่องค์ท่านด้วย

จึงขอเรียนให้ นรธ.และญาติธรรมโปรดรับทราบ
ขอเจริญในธรรม
สมบัติ เพ็งพล (IT Man)
27 ก.พ. 2555


ท่านใดสนใจ สะดวกช่วงวัน/เดือนไหน ก็เรียนเชิญด้วยความยินดียิ่ง
โมทนาสาธุครับ


ในเดือนหน้า 23-24-25 มี.ค 55 : วาระแทนคุณบิดามารดา
ผมจะขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์กับองค์พระพิมพ์อัญเชิญ


1. พระพุทธปฐวีธาตุแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ :แทนคุณบิดา
2. พระพิมพ์สมเด็จกลักไม้ขีดลงรักปิดทอง :แทนคุณมารดา
อธิษฐานจิตโดย
- หลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโต พรหมรังสี (กายเนื้อ)
- คณะหลวงปู่ใหญ่บรมครูพระเทพโลกอุดร (ทั้งห้า)
อิทธิคุณ:
ดีเลิศในทุกๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ มหานิยม
และ: จักขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์แผ่บารมีเพิ่มให้
รายการละ 1 องค์ รวม 2 รายการ
มาร่วมประมูลหาปัจจัยสร้างวัดภูดานไห และตอบแทนญาติธรรมที่เข้ามาศึกษา สนใจในบอร์ดหลวงปู่แหวนฯ
โดยไม่มีการกำหนดคุณสมบัติผู้ร่วมประมูล ขอเพียงท่านมีจิตศรัทธาเท่านั้น
เนื่องด้วยอายุผมจะ 39 ปี ในวันที่ 24 มีนาคม จึงคิดว่าจะเริ่มที่ 939 บาทต่อรายการ โดยการประมูลผ่าน 3 ช่องทางคือ
1. ผ่านเวปบอร์ดหลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิต
2. ผ่านทาง e-mail : it.man@hotmail.co.th (กรณีไม่มี id)
3. ผ่านทางเบอร์มือถือผม : 087 683 2992
ทั้งนี้ ผมจักคอย update ให้ทราบเป็นระยะๆ เริ่ม 1 มี.ค. สิ้นสุด 23 มี.ค. 55
ปล: พระพิมพ์สมเด็จก็นับว่าหายากแล้ว แต่พระพิมพ์สมเด็จที่พิเศษระดับ 5 ดาวมี 5 พิเศษดังนี้
1. วาระ,ฤกษ์พิเศษ
2. องค์เสกพิเศษ
3. มวลสารพิเศษ
4. พิมพ์หนาพิเศษ
5. ลงรักปิดทองหน้า-หลังพิเศษ
มีเพียงวาระนี้ วาระแทนคุณบิดามารดารอบปีที่ 39 นี้วาระเดียวเท่านั้นเด๊อ...โมทนาสาธุครับ

107: ประวัติพระอานนท์เถระ

ประวัติพระอานนท์เถระ

เอตทัคคะในทางผู้เป็นพหูสูต

พระอานนท์ พระราชโอรสของพระสุกโกทนะ ผู้เป็นพระอนุชาของพระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดา พระนามว่า พระนางกีสาโคตมี พระเถระท่านมีศักดิ์เป็นพระอนุชาของพระบรมศาสดา (พระราชโอรสของพระเจ้าอา) เมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว ในพรรษาที่ ๒ ได้เสด็จกลับไปโปรดพระพุทธบิดา และพระประยูรญาติวงศ์ศากยะ ณ นครกบิลพัศดุ์ ในครั้งนั้น บรรดาศากยราชิกูลได้ทรงเลื่อมใสศรัทธา ต่างได้ถวายพระโอรสของตนให้ออกบวชตามเสด็จ ยังเหลือแต่ศากยกุมารเหล่านี้ คือ เจ้าชายมหานามะ เจ้าชายอนุรุทธะ เจ้าชายภัททิยะ เจ้าชายภัคคุ เจ้าชายกิมพิละ เจ้าชายอานนท์ และเจ้าชายเทวทัต ครั้นพระพุทธองค์ประทับอยู่กรุงกบิลพัศดุ์พอสมควรแก่กาล แล้วก็เสด็จจาริกต่อไปยังที่อื่น

ศากยกุมารเหล่านี้ได้ถูกพระประยูรญาติวิจารณ์ว่า เหตุที่ไม่ออกผนวชตามเสด็จนั้น คงจะไม่ถือว่าตนเองเป็นพระประยูรญาติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากระมัง เจ้าชายมหานามะได้ฟังดังนั้นเกิดละอายพระทัย จึงได้ไปปรึกษากับเจ้าชายอื่นๆ ในที่สุดตกลงกันว่าจะออกผนวชตามเสด็จ โดยเจ้าชายมหานามะไม่อาจบวชได้ เนื่องจากจะต้องเป็นกษัตริย์ต่อไป จึงให้พระอนุชาคือเจ้าชายอนุรุทธะออกผนวชแทน ศากยกุมารทั้ง 6 องค์ มีพระอานนท์ เป็นต้นรวมทั้งอุบาลี ซึ่งเป็นกัลบก(ช่างตัดผม ช่างโกนผม) รวมเป็น 7 ท่าน ได้ตามเสด็จพระพุทธองค์ เพื่อขอบรรพชาอุปสมบท และได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่อนุปิยอัมพวัน เขตอนุปิยนิคม แคว้นมัลละ แล้ว กราบทูลว่า

“พระพุทธเจ้าข้า พวกหม่อมฉันเป็นเจ้าศากยะยังมีมานะ ความถือตัวอยู่ อุบาลีผู้นี้เป็น นายภูษามาลา เป็นผู้รับใช้ของหม่อมฉันมานาน ขอพระผู้มีพระภาคจงให้อุบาลีผู้เป็นภูษามาลานี้บวชก่อนเถิด พวกหม่อมฉันจักทำการอภิวาท ลุกรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรม แก่อุบาลีผู้เป็นภูษามาลานี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ ความถือตัวว่าเป็นศากยะ ของพวกหม่อมฉันผู้เป็นศากยะจักเสื่อมคลายลง” ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคโปรดให้อุบาลีผู้เป็นภูษามาลาบวชก่อน ให้ศากยกุมารเหล่านั้นผนวชต่อในภายหลัง พระอุปัชฌายะของท่าน พระอานนท์ ชื่อพระเวลัฏฐสีสเถระ

ในช่วงปฐมโพธิกาลหลังจากตรัสรู้แล้ว ๒๐ พรรษานั้น ยังไม่มีพระภิกษุใดปฏิบัติรับใช้พระพุทธองค์เป็นประจำ มีแต่พระภิกษุผลัดเปลี่ยนวาระกันปฏิบัติ เช่น พระนาคสมาละ พระนาคิตะ พระอุปวาณะ พระสาคตะ และพระเมฆิยะ เป็นต้น บางคราวการผลัดเปลี่ยนบกพร่ององค์ที่ปฏิบัติอยู่ออกไป แต่องค์ใหม่ยังไม่มาแทน ทำให้พระพุทธองค์ต้องประทับอยู่ตามลำพังขาดผู้ปฏิบัติ บางครั้งพระภิกษุผู้ปฏิบัติ ก็ดื้อดึงขัดรับสั่งของพระพุทธองค์ เช่น ครั้งหนึ่ง เป็นวาระของพระนาคสมาลเถระ ท่านได้ตามเสด็จพระพุทธองค์ไปทางไกลพอถึงทาง ๒ แพร่ง พระเถระกราบทูลว่า

“ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์เสด็จไปทางนี้เถิด พระเจ้าข้า”
“อย่าเลย นาคสมาละ ไปอีกทางหนึ่งจะดีกว่า”

พระนาคสมาละ ไม่ยอมเชื่อฟังพระดำรัส ขอแยกทางกับพระพุทธองค์ ทำท่าจะวางบาตรและจีวรของพระผู้มีพระภาคที่พื้นดิน พระพุทธองค์จึงตรัสว่า
“นาคสมาละ เธอจงส่งบาตรและจีวรมาให้ตถาคตเถิด”

พระนาคสมาละ ถวายบาตรและจีวรแด่พระพุทธองค์แล้วแยกทางเดินไปตามที่ตนต้องการ ไปได้ไม่ไกลนักก็ถูกพวกโจรทำร้ายจนศีรษะแตก แล้วแย่งชิงเอาบาตรและจีวรไป ทั้งที่เลือดอาบหน้ารีบกลับมาเฝ้าพระบรมศาสดา กราบทูลเล่าเรื่องให้ทรงทราบ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า

“อย่าเสียใจไปเลย นาคสมาละ ตถาคตห้ามเธอก็เพราะเหตุนี้”

พระพุทธองค์ ได้รับความลำบากพระวรกายเพราะถูกปล่อยให้ประทับอยู่ตามลำพังหลายครั้ง จึงมีพระดำรัสรับสั่งให้ภิกษุสงฆ์เลือกสรรภิกษุทำหน้าที่ปฏิบัติพระองค์เป็นประจำ ภิกษุทั้งหลายมีฉันทามติมอบหมายให้พระอานนท์เถระ รับหน้าที่เป็นพุทธอุปัฏฐากตลอดกาลเป็นนิตย์ ด้วยเห็นว่าท่านเป็นผู้มีสติปัญญา ขยัน อดทน รอบคอบ และเป็นพระญาติใกล้ชิด ย่อมจะทราบพระอัธยาศัยเป็นอย่างดีแต่ก่อนที่พระเถระจะตอบรับทำหน้าที่เป็นพุทธอุปัฏฐากนั้น

ท่านได้กราบทูลขอพร ๘ ประการ จากพระบรมศาสดา ดังนี้:-

๑ ขออย่าประทานจีวรอันประณีตแก่ข้าพระองค์
๒ ขออย่าประทานบิณฑบาตอันประณีตแก่ข้าพระองค์
๓ ขอได้โปรดอย่าให้ข้าพระองค์อยู่ในที่ประทับของพระองค์
๔ ขอได้โปรดอย่าพาข้าพระองค์ไปในที่นิมนต์
๕ ขอพระองค์จงเสด็จไปสู่ที่นิมนต์ ที่ข้าพระองค์รับไว้
๖ ขอให้ข้าพระองค์พาบริษัทที่มาจากแดนไกลเข้าเฝ้าพระองค์ได้ในขณะที่มาถึงแล้ว
๗ ถ้าข้าพระองค์เกิดความสงสัยขึ้นเมื่อใดขอให้ข้าพระองค์เข้าเฝ้าทูลถามความสงสัยได้เมื่อนั้น
๘ ถ้าพระองค์แสดงพระธรรมเทศนาเรื่องใด ในที่ลับหลังข้าพระองค์ขอได้โปรดตรัสพระธรรมเทศนาเรื่องนั้น แก่ข้าพระองค์อีกครั้ง

พระบรมศาสดา ได้สดับคำกราบทูลขอพรของพระอานนท์เถระแล้ว ได้ตรัสถามถึงคุณและโทษของพร ๘ ประการว่า:-
“ดูก่อนอานนท์ เธอเห็นคุณและโทษอย่างไร จึงขออย่างนั้น ?”
“ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ถ้าข้าพระองค์ไม่ได้รับพรข้อที่ ๑-๔ ข้างต้น ก็จะมีคนพูดติฉินนินทา ได้ว่า พระอานนท์ ปฏิบัติบำรุงอุปัฏฐากพระบรมศาสดา จึงได้ลาภสักการะมากมายอย่างนี้ การปฏิบัติอุปัฏฐากมิได้หนักหนาอะไรเลย และถ้าข้าพระองค์ไม่ได้รับพรข้อที่ ๕-๗ ก็จะมีคนพูดได้อีกว่าพระอานนท์ จะบำรุงอุปัฏฐากพระบรมศาสดาไปทำไม แม้กิจเพียงเท่านี้ พระพุทธองค์ก็ไม่ทรงอนุเคราะห์ อนึ่ง โดยเฉพาะถ้าข้าพระองค์ไม่ได้รับพรข้อสุดท้ายแล้ว หากมีผู้มาถามข้าพระองค์ว่า ธรรมข้อนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงที่ไหน ถ้าข้าพระองค์ไม่ทราบ เขาก็จะตำหนิได้ว่าพระอานนท์ติดตามพระบรมศาสดาไปทุกหนแห่ง ดุจเงาตามพระองค์ แต่เหตุไฉนจึงไม่รู้แม้แต่เรื่องเพียงเท่านี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เห็นคุณและโทษ ดังกล่าวมานี้ จึงได้กราบทูลขอพรทั้ง ๘ ประการนั้น พระเจ้าข้า”

พระบรมศาสดา เมื่อได้สดับคำชี้แจงของพระอานนท์แล้ว จึงประทานสาธุการ และพระราชทานอนุญาตให้ตามที่ขอทุกประการตั้งแต่นั้นมา ท่านพระอานนท์ได้รับตำแหน่ง ท่านก็ได้อุปัฏฐากพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยดี กิจที่ท่านทำเป็นประจำแก่พระพุทธเจ้า คือ ถวายน้ำ 2 อย่าง คือ น้ำเย็นและน้ำร้อน ถวายไม้สีฟัน 3 ขนาด นวดพระหัตถ์และพระบาท นวดพระปฤษฏางค์ ปัดกวาดพระคันธกุฏี และบริเวณพระคันธกุฏี ในตอนกลางคืนท่านกำหนดเวลาได้ว่า เวลานี้พระพุทธองค์ทรงต้องการอย่างนั้นอย่างนี้แล้วเข้าเฝ้า เมื่อเฝ้าเสร็จก็ออกมาอยู่ยาม ณ ภายนอกพระคันธกุฏี ในคืนหนึ่ง ๆ ท่านถือประทีปด้ามใหญ่เวียนรอบบริเวณพระคันธกุฏีถึง 8 ครั้ง ท่านคิดว่าหากท่านง่วงนอน เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสเรียกท่านจะไม่สามารถขานรับได้ ฉะนั้น จึงไม่ยอมวางประทีปตลอดทั้งคืน

พระอานนท์นั้นเป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ท่านยอมสละชีพของท่านเพื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ อย่างเช่น เมื่อพระเทวทัตได้วางอุบายจะปลงพระชนม์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมอมเหล้าช้างนาฬาคิรี ซึ่งกำลังตกมัน แล้วปล่อยออกไปในขณะที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกบิณฑบาต โดยมีพระอานนท์เป็นปัจฉาสมณะ เมื่อช้างนาฬาคิรีวิ่งเข้ามาทางพระพุทธองค์ พระอานนท์จึงได้เดินล้ำมาเบื้องหน้าพระศาสดา ด้วยคิดหมายจะเอาองค์ป้องกันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มีพระพุทธดำรัสให้พระอานนท์หลีกไป อย่าป้องกันพระองค์เลย แต่พระอานนท์ได้กราบทูลว่า

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชีวิตของพระองค์มีค่ายิ่งนัก พระองค์อยู่เพื่อเป็นประโยชน์แก่โลก เป็นดวงประทีปของโลก เป็นที่พึ่งของโลก ของพระองค์อย่าเสี่ยงกับอันตรายครั้งนี้เลย ชีวิตของข้าพระองค์มีค่าน้อย ขอให้ข้าพระองค์ได้สละสิ่งซึ่งมีค่าน้อยเพื่อรักษาสิ่งที่มีค่ามาก เหมือนสละกระเบื้อง เพื่อรักษาซึ่งแก้วมณีเถิดพระเจ้าข้าฯ”

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า

“อย่าเลยอานนท์ บารมีเราได้สร้างมาดีแล้ว ไม่มีใครสามารถปลงชีวิตของตถาคตได้ ไม่ว่าสัตว์ดิรัจฉานหรือมนุษย์หรือเทวดามารพรหมใด ๆ”

ในขณะนั้นช้างนาฬาคิรีวิ่งมาจนจะถึงพระองค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์จึงได้แผ่พระเมตตาจากพระหฤทัย ซึ่งไปกระทบกับใจอันคลุกอยู่ด้วยความมึนเมาของช้างนาฬาคิรีได้ ช้างใหญ่หยุดชะงัก ใจสงบลงและหมอบลงแทบพระบาท พระพุทธองค์ทรงใช้พระหัตถ์ลูบที่ศีรษะพญาช้าง พร้อมกับตรัสว่า

“นาฬาคิรีเอ๋ย เธอกำเนิดเป็นดิรัจฉานในชาตินี้ เพราะกรรมอันไม่ดีของเธอในชาติก่อนแต่งให้ เธออย่าประกอบกรรมหนัก คือทำร้ายพระพุทธเจ้าเช่นเราอีกเลย เพราะจะมีผลเป็นทุกข์แก่เธอตลอดกาลนาน”
ช้างนาฬาคิรีน้ำตาไหลพราก น้อมรับฟังพระพุทธดำรัสด้วยอาการดุษฎี

พระอานนท์เถระ ได้ปฏิบัติพระพุทธองค์อย่างใกล้ชิด มิได้ประมาทพลาดพลั้ง ได้ฟังพระธรรมเทศนาทั้งที่ทรงแสดงแก่ตนและผู้อื่น ทั้งที่แสดงต่อหน้าและลับหลัง อีกทั้งท่านเป็นผู้มีสติปัญญาทรงจำไว้ได้มาก จึงเป็นผู้ฉลาดในการแสดงธรรม พระบรมศาสดาทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งปวงถึง ๕ ประการ คือ เป็นพหูสูต เป็นผู้มีสติ เป็นผู้มีคติ เป็นผู้มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก

ในกาลที่พระพุทธองค์ใกล้ปรินิพพาน พระอานนท์เถระมีความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตนยังเป็นพระโสดาบันอยู่ อีกทั้งพระบรมศาสดาบรมครูก็จะเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพานในอีกไม่ช้า จึงหลีกออกไปยืนร้องไห้แต่เพียงผู้เดียวข้างนอก พระพุทธองค์รับสั่งให้ภิกษุไปเรียกเธอมาแล้ว ตรัสเตือนให้เธอคลายทุกข์โทมนัสพร้อมทั้งตรัสพยากรณ์ว่า....

“อานนท์ เธอจะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ในวันทำปฐมสังคายนา”

เมื่อพระบรมศาสดาปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปเถระได้นัดประชุมพระอรหันต์ขีณาสพ จำนวน ๕๐๐ องค์ เพื่อทำปฐมสังคายนา โดยมอบให้พระอานนท์รับหน้าที่วิสัชนาพระสูตรและพระอภิธรรม แต่เนื่องจากพระอานนท์ยังเป็นพระโสดาบันอยู่ ท่านจึงเร่งทำความเพียรอย่างหนักแต่ก็ยังไม่สำเร็จจนเกิดความอ่อนเพลีย ท่านจึงปรารภที่จะพักผ่อนอิริยาบถสักครู่ จึงเอนกายลงบนเตียง ในขณะที่เท้าพ้นจากพื้น ศีรษะกำลังจะถึงหมอน ท่านก็สำเร็จเป็นพะอรหันต์ในระหว่างอิริยาบถทั้ง ๔ คือ ไม่ได้อยู่ในอิริยาบถอย่างใดอย่างหนึ่งทั้ง ๔ อย่าง คือ อิริยาบถยืน เดิน นั่ง หรือนอน นับว่าท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แปลกกว่าพระเถระรูปอื่น ๆ

พระอานนท์เถระ ดำรงอายุสังขารอยู่นานถึง ๑๒๐ ปี พิจารณาเห็นว่าสมควรที่จะปรินิพพานได้แล้ว ท่านจึงเชิญญาติทั้งฝ่ายศากยะและฝ่ายโกลิยะ ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี ซึ่งกั้นเขตแดนระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ และกรุงเทวทหะ ก่อนที่จะปรินิพพาน ท่านเหาะขึ้นไปบนอากาศได้แสดงธรรมสั่งสอนเทวดาและพระประยูรญาติทั้งสองฝ่าย ตลอดทั้งพุทธบริษัทอื่น ๆ เมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้วท่านได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่า....

“เมื่ออาตมานิพพานแล้ว ขอให้อัฐิธาตุของอาตมานี้จงแยกออกเป็น ๒ ส่วน จงตกลงที่ฝั่งกรุงกบิลพัสดุ์ ของพระประยูรญาติฝ่ายศากยวงศ์ ส่วนหนึ่ง และจงตกที่ฝังกรุงเทวทหะของพระประยูรญาติฝ่ายโกลิยวงศ์ส่วนหนึ่ง เพื่อป้องกันมิให้พระประยูรญาติทั้งสองฝ่ายทะเลาะวิวาทกันเพราะแย่งอัฐิธาตุ”

ครั้นอธิษฐานเสร็จแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน ณ เบื้องบนอากาศ ในท่ามกลางแม่น้ำโรหิณี เตโชธาตุก็เกิดขึ้น เผาสรีระของท่านเหลือแต่กระดูกและแยกออกเป็น ๒ ส่วน แล้วตกลงบนพื้นดินของ ๒ ฝั่งแม่น้ำโรหิณีนั้นสมดังที่ท่านอธิษฐานไว้ทุกประการ



พระธาตุของพระอานนท์เถระ
สัณฐานดั่งใบบัวเผื่อน พรรณดำดั่งน้ำรัก หรือสีขาวสะอาดดั่งสีเงิน
กราบ กราบ กราบ

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

106: 5 ก.พ. 2555: ภาพส่งท้ายมุทิตาสักการะ

บ่ายวันอาทิตย์ที่ 5 ก.พ. 2555: ภาพส่งท้าย

ภาพในนิมิตขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์...

ประพุทธรูปทรงยืนประทานพร ขนาดใหญ่ ประดิษฐาน ณ ลานธรรมปฏิบัติธรรมข้ามปี
ทรงหันพระพักตร์มาทางด้านทิศตะวันออก (ศาลาหลวงปู่ศรีสุทโธ)

อนาคตอันใกล้ของศาลาปฏิบัติธรรมหลวงปู่ศรีสุทโธ...จักบูรณะใหม่ประมาณนี้

ผมจึงขอบันทึกภาพไว้...เป็นครั้งสุดท้าย...


ฝนตกเป็นต้องรั่วนองพื้นไปทั่ว เนื่องจากไม่ได้มีการวัดระดับ


สรุปแถลงการณ์ขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ในการเปลี่ยนแผนโครงการสร้างศาลาปฏิบัติธรรมหลังใหม่ มาเป็น...
1. การบูรณะศาลาปฏิบัติธรรมเดิม (หลวงปู่ศรีสุทโธ)

2. ต่อเนื่องไปยังการบูรณะโรงครัวที่ใช้เป็นที่รับแขกขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ด้วย
3. บูรณะกุฏิหลังเดิม เพื่อแยกการเก็บอัฐบริขาร
เนื่องจาก
1. องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเห็นใจญาติโยมสามกลุ่มดังนี้...
กลุ่มนรธ.ฝ่ายจัดหาทุนทรัพย์ : เนื่องจากเราจักไม่มีการเรี่ยไร ทำซอง หรือผ้าป่าเลย
ณ ตอนนี้ทางวัดมีปัจจัยอยู่ในธนาคารประมาณ 7 แสนบาท
แต่ญาติโยมต้องหาอีกตั้ง 8 แสนบาทในการสร้างศาลา ทำให้ท่านเห็นใจผู้ที่ต้องหาเช้ากินค่ำมากๆ
กลุ่มคุณตาคุณยายทางภูดานไห : ที่ต้องหาเช้ากินค่ำอยู่
และที่สำคัญคือคุณแม่ชม : ซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ไว้วางใจให้สนองงานต่างๆ
แต่เนื่องจากคุณแม่ก็อายุก็มากแล้ว สมควรจักให้ท่านพักผ่อนภาวนาได้แล้ว
2. หากย้ายมาบูรณะศาลาฯหลังนี้แทน ก็คงจะทำได้ไม่ยาก ใช้เงินทุนไม่มากและสามารถทำได้เลย
3. อีกทั้งความสำคัญของโรงครัว ก็เหมือนหน้าบ้าน จึงสมควรบูรณะให้เร่งด่วนกว่าด้วยซ้ำไป
4. ห้องน้ำก็ยังไม่เพียงพอต่อญาติโยม จึงน่าจะเพิ่มที่ด้านล่างด้วย
5. โดยรวมๆแล้วที่ว่าข้างต้น สำคัญหมด หากรีบทำก็จักเสร็จกันไปตามลำดับ ภายในงบประมาณไม่น่าเกิน 8 แสนและสามารถใช้งานได้เลย
6. หากไปสร้างศาลาฯหลังใหม่นั้น ก็จักใช้เวลานาน (ประมาณสองปี) ทั้งไม่มีคนคุมงาน
7. ไปทำลายต้นข่อยดาน อายุนับสิบๆปี ซึ่งเรียกได้ว่า ข่อยดาน เป็นสัญลักษณ์ของภูดานไห

ดังนั้นศาลาปฏิบัติของภูดานไห อันจักบูรณะเพื่อเป็นการแจกแจงธรรมะต่อญาติโยมขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์
จึงไม่จำเป็นต้องหรูหรา ควรทำในสิ่งที่มีอยู่แล้วนี้ ให้ดี เหมาะสม สวยงาม อย่างพอเพียง ก็น่าจะเพียงพอครับ

ปล:
- สำหรับญาติโยมที่จักร่วมทำบุญมา...ก็เสมือนได้สร้างถาวรวัตถุให้เกิดมีครบทุกประการดังที่กล่าวมาข้างต้นครับ
- สำหรับ นรธ. บางท่าน ที่ไม่ได้ไปร่วมงานฯ ผมจะจัดส่ง DVD รวบรวมธรรมะและรูปภาพส่งไปให้ท่านในวันพรุ่งนี้ วันจันทร์,อังคารน่าจะถึงมือทุกๆท่าน

ขอให้เจริญในพระธรรม

105: 5 ก.พ. 2555 : ตักบาตร,ถวายภัตตาหารเช้า

สายๆวันอาทิตย์ที่ 5 ก.พ. 2555 : ตักบาตร,ถวายภัตตาหารเช้า



104: 5 ก.พ. 2555: ห้องประดิษฐานพระบรม




กราบ กราบ กราบ

อืม...
น้อยเป็นตางึด

งามเป็นตางึด

เฮ็ดได้เป็นตางึด